One Man’s Hero
สำหรับคนฝั่งหนึ่ง พวกเขาคือวีรบุรุษ แต่สำหรับคนอีกฝั่งหนึ่ง พวกเขาเป็นได้เพียง “คนทรยศ”
One Man’s Heroคือหนังสงครามอิงประวัติศาสตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริงในสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโกระหว่างปี ค.ศ.1846 -1848 ที่ต่อสู้กันเนื่องจากสหรัฐอเมริกาต้องการขยายดินแดนตอนกลางของทวีปส่วนที่ติดกับเม็กซิโก เพื่อรองรับการเกษตรภายในประเทศที่ขยายตัวขึ้น แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีสหรัฐอเมริกาเป็นตัวเอก แต่ให้ความสำคัญกับ “กองกำลังต่างชาติชาวไอริช” ในกองทัพสหรัฐอเมริกา
ในช่วงนั้น สหรัฐอเมริกาเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นดินแดนสำหรับความหวังของใครหลายคน รวมไปถึงชาวไอริชจากประเทศไอร์แลนด์ที่ต่างพากันแล่นเรือข้ามมหาสมุทรมาแสวงโชคในดินแดนแห่งนี้ และการเข้าร่วมกองทัพสหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งวิธีการที่ชาวไอริชนิยมเพื่อพาตัวเองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ชาวไอริชก็ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็น “คนนอก” อยู่ตลอดเวลา ทั้งในแง่การปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม และที่สำคัญคือศาสนา ที่ชาวไอริชนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค ขณะที่ชาวอเมริกานับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์
ความแตกต่างทางศาสนานี่เองที่ทำให้ “จอห์น ไรลีย์” (John Riley รับบทโดย Tom Berenger) นายทหารเชื้อสายไอริชที่รับราชการทหารมาเป็นเวลานานจนได้รับความไว้วางใจจากนายทหารชั้นสูง ตัดสินใจช่วยเหลือเหล่าทหารไอริชที่แอบหนีไปโบสถ์คาทอลิกและกำลังจะถูกลงโทษ ด้วยการพานายทหารเหล่านั้นหนีข้ามแดนไปยังเม็กซิโก แม้ว่าจะแลกด้วยตำแหน่งหน้าที่ของเขาก็ตาม
ไรลีย์และนายทหารอีก 16 คนได้ข้ามแดนมายังเม็กซิโก และหวังที่จะหาเรือเพื่อเดินทางกลับไอร์แลนด์บ้านเกิด แต่แล้วพวกเขาก็ถูกจับโดย“คอร์ตินา” (Cortina รับบทโดย Joaquim de Almeida) กองกำลังปฏิวัติของเม็กซิโก ซึ่งคอร์ตินาก็ได้เสนอทางเลือกแก่เขาว่าจะเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อรับโทษที่หนีทัพมา ซึ่งบทลงโทษคงไม่แคล้ว “แขวนคอ” หรือเข้าร่วมกับกองกำลังของคอร์ตินา
ต่อมา รัฐบาลเม็กซิโกได้มาขอร้องให้คอร์ตินาเข้าร่วมกับกองทัพรัฐบาลเพื่อสู้รบกับสหรัฐอเมริกา ไม่งั้นจะจับคอร์ตินาในฐานะกบฏ ไรลีย์และพวกถึงเวลาต้องเลือกอีกครั้งว่า จะร่วมสู้รบกับสหรัฐอเมริกาด้วยหรือไม่ หลังจากการหารือกัน พวกเขาตัดสินใจเข้าร่วมกับเม็กซิโก เพื่อความหวังจะได้รับที่ดินสำหรับตั้งรกร้างหลังสิ้นสุดสงคราม และอีกเหตุผลสำคัญคือ เม็กซิโกเป็นชาวคริสต์โรมันคาทอลิกเหมือนกับพวกเขา โดยไรลีย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองทัพชาวไอริชในเม็กซิโก ซึ่งภายหลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ
ในสายตาของเม็กซิโก ไรลีย์และพวกคือพันธมิตร แต่ในสายตาของสหรัฐอเมริกา พวกเขาคือคนทรยศ แม้แต่ในสายตาของชาวไอริชในอเมริกาเองก็มองพวกเขาอย่างเคลือบแคลงว่าจะทำอะไร นี่คือสิ่งที่ไรลีย์ต้องเผชิญ พวกเขาร่วมสู้รบกับเม็กซิโกอย่างห้าวหาญ แต่ขณะเดียวกันก็มีหลายชีวิตที่ต้องสูญเสีย ยิ่งเมื่อสงครามทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ไรลีย์และพวกต้องกลับมานั่งทบทวนอีกครั้งว่า “ที่ผ่านมาเราสู้เพื่ออะไร”
One Man’s Hero คือหน้าประวัติศาสตร์อีกหน้าที่อาจยังไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไหร่ แต่ก็มีความน่าสนใจและแตกต่างจากหนังสงครามประวัติศาสตร์เรื่องอื่นไม่น้อย เพราะ One Man’s Hero พาเราเข้าไปสำรวจความคิดเห็นของ “กลุ่มคนนอก” ว่าพวกเขาจะสู้ให้กับประเทศที่ไม่ใช่บ้านเกิดของเขาไปทำไม หรือว่าจริงๆ มันมีสิ่งที่สูงส่งกว่านั้นที่พวกเขาควรค่าที่จะต่อสู้อยู่รึป่าว
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบหนังสงคราม นี่คืออีกเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย ฉากสงครามภายในเรื่องแม้อาจดูไม่ยิ่งใหญ่เท่าหนังฟอร์มยักษ์จาก Hollywood แต่ก็ดูน่าสนุกตื่นเต้น ตลอดจนเศร้าในความสูญเสียหลายๆ ฉาก หนังยังมีประเด็น แง่มุม ให้ขบคิดอีกมากมาย โดยเฉพาะตัวละครไรลีย์ ที่ต้องแบกรับความกดดันของนายทหารชาวไอริชเอาไว้ ยิ่งใครสนใจเรื่องประวัติศาสตร์ยิ่งไม่ควรพลาดเรื่องนี้ เพราะไม่บ่อยนักที่เราจะเห็นหนังประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกองกำลังชาวไอริชเรื่องนี้
ไรลีย์และพวกจะยังสู้รบร่วมกับเม็กซิโกต่อไปหรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วพวกเขาเลือกที่จะกลับไปสหรัฐอเมริกา พบกับการตัดสินใจนี้ได้ใน One Man’s Hero รับชมผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลาเพียงคลิกเว็บไซต์ดูหนังดอทคอม (www.doonung.com) เว็บไซต์เพื่อคนรักหนัง หรือคลิกเข้าชมโดยตรงได้ที่ http://www.doonung.com/inter-movies/action/7289.html
ข้อมูลภาพยนตร์
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ภาษา: อังกฤษ (มีบรรยายไทย)
ออกฉายครั้งแรก: 2 สิงหาคม พ.ศ.2542
ผู้สร้าง: Arco Films S.L.
ประเภท: แอ็คชั่น
เรท: ทั่วไป
ความยาว: 2 ชั่วโมง 1 นาที
ผู้กำกับการแสดง: Lance Hool
ผู้เขียนบท: Milton S. Gelman
นักแสดง:
1. Tom Berenger รับบท John Riley
2. Joaquim de Almeida รับบท Cortina
3. Daniela Romo รับบท Marta
4. Mark Moses รับบท Colonel Benton Lacy
5. Strart Graham รับบท Corporal Kenneally
รวม 50 โปสเตอร์สยองขวัญแนวย้อนยุค
รีวิวหนัง : สุดคลาสสิค ! รวม 50 โปสเตอร์สยองขวัญแนวย้อนยุค
รีวิวหนัง : Get Smart พยัคฆ์ฉลาดเก๊กไม่เลิก
Get Smart พยัคฆ์ฉลาดเก๊กไม่เลิก วันที่เข้าฉาย : 19-06-2008