GANGNAM BLUES

โพสเมื่อ วันที่ 19 April 2016 | เปิดอ่าน 1,366 views | หมวดหมู่ : รีวิวหนัง

รีวิวหนัง : ‘GANGNAM BLUES โอปป้า ซ่ายึดเมือง’ ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของ ‘ลีมินโฮ’

เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของภาพยนตร์แอ๊คชั่นสุดมัน ‘GANGNAM BLUES  โอปป้า ซ่ายึดเมือง’ ที่ doonung.com นำมาฉายในรูปแบบออนไลน์ให้แฟนๆได้รับชม เราจึงอยากแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้คุณได้รู้จัก และได้เห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้มีดีที่พระเอกหล่อเพียงอย่างเดียว !

 

เรื่องย่อภาพยนตร์
ปี 1970 เริ่มแผนระห่ำยึดครองถิ่นกังนัม จองแด (ลีมินโฮ) และยองกี (คิมแรวอน) เป็นเด็กกำพร้าที่่กลายมาเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร พวกเขาก็ไม่สามารถหนีไปจากความยากจนและเมืองโกโรโกโสที่พวกเขาอาศัยอยู่ได้ แต่เมื่อที่อยู่ของพวกเขากำลังจะถูกรื้อจากแผนการพัฒนาพื้นที่ ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนกลายเป็นคนไร้บ้าน เมื่อแก๊งค์มาเฟียแถวนั้นขาดคน จองแดและยองกีจึงเข้าร่วมแก๊งค์ โดยงานของพวกเขาคือการไปทำลายการชุมนุมทางการเมือง แต่ท่ามกลางความวุ่นวาย จองแดกับยองกีก็พลัดจากกัน
3 ปีต่อมา จองแดได้เข้าร่วมเข้าแก๊งค์มาเฟีย เขาและพวกเริ่มกว้านซื่อที่นาในกังนัมก่อนที่พื้นที่นี้จะกลายเป็นเมืองสำคัญเมืองใหม่ของเกาหลี เมื่อแก๊งค์คู่อริล่วงรู้ถึงแผนนี้ จองแดจึงได้พบกับศัตรูของเขา ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นไกล หากแต่เป็นยองกีนั่นเอง
เกี่ยวกับนักแสดง
ลีมินโฮ รับบท คิมจองแด
“จำได้มั้ยว่าการไม่มีบ้านจะอยู่มันลำบากแค่ไหน?” – คิมจองแด คนหนุ่มผู้ไม่เกรงกลัวสิ่งใด
เขาไม่มีอะไรเลยนอกจากชื่อของเขา สิ่งเดียวที่เขาพึ่งพาได้คือหมัด ตั้งแต่เป็นเด็กกำพร้า จองแดนับถือยองกี ที่อายุมากกว่าเขา 2-3 ปี พวกเขามีกันเพียงสองคน แต่เมื่อเขาต้องพลัดพรากจากยองกีระหว่างงานงานหนึ่ง อดีตหัวหน้าแก๊งค์ได้อุปการะเขาและชักจูงให้เขาหันไปใช้ชีวิตในแบบที่ถูกต้องและมีศีลธรรม แต่จองแดไม่ต้องการที่จะทิ้งความทะเยอทะยานในตัวไป ท้ายที่สุด เขาก็ถูกดึงกลับไปสู่โลกใต้ดินอันมืดหม่นและเข้าไปพัวพันกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นี่คือบทพิสูจน์การเป็นนักแสดงคุณภาพของลีมินโฮ !
อีมินโฮเริ่มต้นงานการแสดงในปี 2005 จากบทเล็กๆในซีรียส์ I am Sam ที่เขาแสดงคู่กับปาร์คมินยอง และ T.O.P วงบิ๊กแบง จนกระทั่งเขาแจ้งเกิดจากบทบาทของกูจุนเพียว คุณชายผมหยักศกจอมหยิ่ง ลูกชายมหาเศรษฐีพันล้าน ในซีรียส์ รักฉบับใหม่หัวใจ4 ดวง (Boys Over Flowers) เขาประสบความสำเร็จในการเป็นนักแสดงและได้ขยายของเขตของการแสดงของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Gangnam Blues ซึ่งบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องแสดงทั้งอารมณ์ที่หนักหน่วงและมีการต้องแสดงฉากแอ๊คชั่นที่รุนแรง
SELECTED FILMOGRAPHY
[TV]
2013 The Heirs
2012 The Faith, The Great Doctor
2011 City Hunter
2010 Personal Taste
2009 Boys Over Flowers
2008 Public Enemy, Our School’s ET, Get Up
2007 Run Mackerel / I am Sam
2006 Secret Campus
คิมแรวอน รับบท ยองกี
“อนาคตของคนเป็นมาเฟีย อยู่ที่ว่า นายของเขาคือใคร” – ยองกี
หลังจากที่เขาพลัดพรากจากจองแด ยองกีก็ได้เริ่มใช้ชีวิตเป็นมาเฟีย เขาไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตที่ยากจนเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาได้เลื่อนตำแหน่งจนขึ้นสูงภายในแก๊งค์ และกลายเป็นมือขวาของลูกพี่ใหญ่ แต่เมื่อเขาได้กลับมาพบกับจองแดอีกครั้งในอีกสามปีให้หลัง พวกเขากลับต้องกลายมาเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน
คิมแรวอน คืนจอ พร้อมด้วยความทะเยอทะยาน เช่นเดียวกับตัวละครของเขา!
คิมแรวอน เป็นนักแสดงที่มีผลงานการแสดงทั้งซีีรียส์ และภาพยนตร์ โดยเขาผ่านการแสดงในผลงานแนวโรแมนติค คอมมาดี้, ดราม่า และแนวแก๊งค์สเตอร์มาแล้ว เป็นเวลา 8 ปีแล้ว นับตั้งแต่ที่เขาแสดงในหนังแนวแอ๊คชั่น แก๊งค์สเตอร์เรื่องล่าสุดของเขาอย่างSunflower  โดยในการรับบทยองกี เขาต้องลดน้ำหนักตัวเองถึง  15 กิโลกรัม คิมแรวอน ได้ใช้ร่างกายของเขาในการสื่อถึงอันตรายจากตัวละครตัวนี้ ในฐานะของตัวละครที่มุทะลุ และพร้อมที่จะหักหลังคนอื่นได้เสมอ
SELECTED FILMOGRAPHY
[TV]
2011 A Thousand Days’ Promise
2008 Le Grand Chef
2006 Sunflower, Which Star Are You From
2004 My Little Bride, Love Story In Harvard / Say You Love Me
2003 Cat On The Roof
[Film]
2013 A Wonderful Moment
2011 A Thousand Days’ Promise
2009 Insandong Scandal
2005 Mr. Socrates
2003 …Ing
เกี่ยวกับการถ่ายทำ
1 สัปดาห์ กับนักแสดง และทีมสตันท์กว่า 150  คน! กับฉากแอ๊คชั่นแบบไม่มียั้งท่ามกลางโคลนและฝน!
“ไม่ว่านี่จะเป็นภาพยนตร์แนวไหนก็ตาม แต่ฉากแอ๊คชั้่นนั้นจะต้องมีเพื่อเป็นส่วนเสริมของดราม่าในเรื่อง” ผู้กำกับยูฮากล่าวถึงแนวทางในการกำกับฉากแอ๊คชั่น ที่เป็นส่วนใหญ่ของภาพยนตร์เรื่อง Gangnam Blues ฉากสำคัญที่จองแดกับยองกีจะต้องสู้กับศัตรูนั้น มีความสำคัญมากกว่าฉากดราม่าฉากไหนๆในเรื่อง ฉากแอ๊คชันในภาพยนตร์เรื่องนี้ ออกมาจากคาแร็กเตอร์ที่ต้องการเอาชีวิตรอด ตัวอย่างที่เห็นได้ฉากหนึ่งคือฉากการปะทะกันของสองแก๊งค์ท่ามกลางโคลน ผู้กำกับยูฮาต้องการเสนอถึงชะตากรรมของสองตัวละครและความสิ้นหวังขณะที่พวกเขาต้องสู้กับศัตรูท่ามกลางโคลน ทีมงานต้องพยายามอย่างมากที่จะหาจุดที่เหมาะสมในการถ่ายทำโดยต้องนำดินมาเทในบริเวณนั้น เพื่อให้ฉากแอ๊คชั่นมีความสมจริง ฉากนี้จึงถ่ายทำด้วยกล้องสเตดิแคม เพื่อให้สามารถถ่ายทำเทคที่มีความต่อเนื่องยาวนานได้  ฉากนี้ใช้นักแสดงและสตันท์กว่า 150 คน ในการถ่ายทำวันละ12 ชั่วโมงเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ท่ามกลางสายฝน
เพราะฉากนี้ ถ่ายทำโดยไม่มีการใช้ตัวแสดงแทน นักแสดงจึงได้รับบาดเจ็บจริงๆในการถ่ายทำและต้องเดือดร้อนจากโคลน  นักแสดงหลายคนต้องเข้าโรงพยาบาล  หลังการถ่ายทำในแต่ละเทค ผู้ช่วยผู้กำกับจะตะโกนถามว่า มีใครได้รับบาดเจ็บมั้ย อีมินโฮได้รับบาดเจ็บที่นิ้วโป้งในการถ่ายทำฉากนี้และต้องฉีดมอร์ฟีนเพื่อให้สามารถถ่ายทำฉากนี้ได้จนจบ  ฉากนี้ไม่เพียงแต่เป็นฉากที่ตัวละครต้องกระเสือกกระสนเท่านั้น แต่การถ่ายทำฉากนี้เป็นเสมือนสงครามสำหรับนักแสดง สตันท์ และทีมงาน ขณะที่ฝนตกลงมาจนดินกลายเป็นโคลน  ไม่มีใครสามารถแยกแยะออกได้ว่าคนไหนคือเพื่อนคนไหนคือศัตรู การแค่จะเดินข้ามทุ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ในสภาพที่หนักหนาสาหัสขนาดนั้น นักแสดงทุกคนรวมทั้งอีมินโฮและคิมแรวอนทุ่มเทใจและจิตวิญญาณในการถ่ายทำฉากนี้จนเสร็จสิ้นตามที่ผู้กำกับต้องการ

  • ข่าวที่น่าสนใจ
  • ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • 10 หนังดี มีความลับ ที่ผู้กำกับไม่ได้บอก (แต่เราจะเฉลย!!)
    เมื่อความสนุกของผู้กำกับซ่อน 10 ฉากแห่งความลับเอาไว้ในหนังอย่างแนบเนียน เคยสังเกตกันบ้างไหมว่าฉากหนังแต่ละเรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่ ความสนุกและน่าติดตามในหนังแต่ละเรื่องต่อไปนี้จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อคุณรู้ว่าในแต่ละฉากนั้นมีมากกว่าภาพที่เราเห็น และนี่คือตัวอย่าง 10