Home > รีวิวซีรีย์ > The Divine Move ฮิคารุเซียนโกะเวอร์ชั่นดาร์ค

The Divine Move ฮิคารุเซียนโกะเวอร์ชั่นดาร์ค

โพสเมื่อ วันที่ 19 April 2016 | เปิดอ่าน 1,778 views | หมวดหมู่ : รีวิวซีรีย์

รีวิวหนัง : The Divine Move : ฮิคารุเซียนโกะเวอร์ชั่นดาร์ค (เลือดสาด)

The Divine Move : ฮิคารุเซียนโกะเวอร์ชั่นดาร์ค (เลือดสาด)
[เล่นหมากล้อมไม่เป็นก็ดูรู้เรื่อง]
The Divine Move บอกเล่าเรื่องราวของแทซอกเซียนหมากล้อมที่วันหนึ่งเกิดจุดพลิกผันของชีวิตเมื่อพี่ชายเขาชวนมาร่วมขบวนการโกงพนันหมากล้อม โดยพี่ชายได้ติดกล้องไว้กับเสื้อและให้แทซอกเป็นคนเดินนำหมากอยู่ข้างนอก แต่โชคร้ายเกิดถูกจับได้ บรรดาขาใหญ่นักพนันจึงได้ฆ่าพี่ชายเขาต่อหน้าต่อตา แถมแทซอกยังถูกยัดเยียดข้อหาฆ่าพี่ชายตนเองอีกด้วย และเมื่อแทซอกพ้นโทษ การล้างแค้นด้วยหมากล้อมจึงเกิดขึ้น
หากใครได้ดูหรืออ่านฮิคารุเซียนโกะคงจำกันได้ดีว่ามีเพื่อนของฮิคารุคนหนึ่งที่ชอบเล่นพนันโกะ (หมากล้อม) และอาศัยกลยุทธ์การโกงต่างๆนาเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ ในหนังเรื่อง The Divine Move ก็เป็นเช่นนั้นแต่เป็นการโกงแบบครบวงจร ทำกันเป็นทีม และมีการเดิมพันด้วยจำนวนเงินมหาศาลรวมไปถึงชีวิต ตัวหนังยังพาคนดูไปถึงมุมมืดของวงการพนันหมากล้อมอีกด้วย ทั้งการลักพาตัวเด็กที่เก่งให้มาเดินนำหมาก กลยุทธ์กินเงินจากนักพนันรายใหญ่ รวมไปถึงมาเฟียหมากล้อม
นอกจากกลยุทธ์การโกงหมากที่เหนือชั้นเซียนตัดเซียนแล้ว ทางผู้สร้างยังสรรหาฉากการเล่นหมากล้อมแต่ละสถานการณ์มาให้เราได้ดูกันอย่างล้นหลาม ทั้งการเล่นหมากล้อมในห้องขังเดี่ยว การเล่นหมากล้อมในห้องแช่แข็งโดยใช้นาฬิกาทรายจับเวลา การเล่นหมากล้อมบอด (เล่นโดยไม่มองกระดาน อาศัยบอกตำแหน่งการลง)
ส่วนสำหรับใครที่เล่นหมากล้อมไม่เป็นก็ไม่ต้องกลัวว่าจะดูไม่รู้เรื่อง เพราะตัวหนังได้อธิบายการได้เปรียบเสียเปรียบจากรูปเกมออกมาทางสีหน้าผู้แข่งขันได้อย่างดี และยังมีการอธิบายถึงการบู๊การบุ๋นของรูปเกมผ่านคำพูดในฉากที่สำคัญ
ด้านฉากบู๊ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมีให้เห็นอยู่ตลอดตั้งแต่ตอนแรกของเรื่อง เรียกว่าเล่นโกะกันดีๆ อยู่ๆหันมาฆ่ากันเฉย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยเหตุและผลของมัน นอกจากนี้อาวุธหลักที่ใช้ในการสังหารยังเป็นมีดที่ช่วยให้แต่ละตัวละครออกลีลาแอ็คชั่นได้อย่างสุดโต่งและชวนคนดูเสียวไส้ไปกับการเฉือนคอ เรียกว่าทำออกมาได้ตามมาตรฐานหนังบู๊เลือดสาดตามสไตล์เกาหลี
โดยรวมเป็นหนังบู๊ที่ดี ฉากแอ็คชั่นก็ทำออกมาได้ดีไม่ผิดหวัง เนื้อหาดำเนินไปอย่างเป็นเหตุเป็นผลมีระดับขั้นตอนอยู่ตลอดโดยอาศัยหมากล้อมเป็นปัจจัยหลักในการล้างแค้นเพื่อวางชีวิตเป็นเดิมพัน และเมื่อดูเรื่องนี้จบทำให้เรานึกถึงประโยคหนึ่งที่ว่า “หากวางหมากพลาด เราจะโดนกิน แต่ถ้าเราวางแผนชีวิตผิด เราอาจถึงตาย”