Home > รีวิวซีรีย์ > คู่แรด The odd couple

คู่แรด The odd couple

โพสเมื่อ วันที่ 29 March 2016 | เปิดอ่าน 1,343 views | หมวดหมู่ : รีวิวซีรีย์

รีวิวหนัง : คู่แรด

คู่แรด The odd couple

” คนหนึ่งทนเหมือน..แรด อีกคน..แรดเหลือทน “

     

เชื่อไหมว่า 2 คนนี้เหมือนกันยังกะ “แรด” ไม่ว่าจะเป็น “เซกิ” นายตำรวจหนุ่มมากฝีมือผู้ยึดมั่นเอาจริงเอาจังในหน้าที่ เคร่งครัดระเบียบวินัยตามสไตล์เลือดบูชิโด (ชาวอาทิตย์อุทัย) แถมสู้สุดตัวอย่างไม่ค่อยก้มหัวให้ใครและที่สำคัญ“อึดและทนยิ่งกว่า แรด” ทุ่มเททั้งชีวิตทางการแสดงโดย“เซกิ โอเซกิ”หนุ่มญี่ปุ่นยุ่นปี่จากแดนข้าวปั้นเมืองปลาดิบ หรือ “ลิลลี่” กะเทยร่างอวบตันที่ถึงแม้หุ่นจะไม่ให้ในฐานะดาวเด่นประจำอัลคาซ่าร์ ถึงต่อให้ใช้สารเร่งความสวยมากมายก่ายกองขนาดไหน ย่อมไร้ผล แต่ด้วยใจรัก คิดฝันสิ่งใดต้องคว้ามาให้ได้จนได้รับการสรรเสริญเยินยอจากคนรอบข้างว่า “แรดเหลือทน” ถอดชีวิตเล่นโดย“หม่ำ จ๊กมก” ซุปเปอร์สตาร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทยลูกข้าวเหนียวนึ่งแดนปลาร้าแต่ใครจะไปคาดคิดว่าท้ายที่สุดแล้ว “ลูกข้าวเหนียวกับลูกข้าวปั้น” จะกลายมาเป็น “คู่แรด”คู่หูบัดดี้ที่ฮาที่สุดแห่งยุค

 

    

เนื้อเรื่องย่อภาพยนตร์ “คู่แรด”

เซกิ( เซกิ โอเซกิ) นายตำรวจหนุ่มขาลุยจากญี่ปุ่นเดินทางมาเมืองไทย เพื่อติดตามฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง ที่พิศมัยการฆ่ากระเทยเป็นที่สุด โดยฆ่ากระเทยที่ญี่ปุ่นไปหลายศพ แล้วยังฆ่าเพื่อนตำรวจของเขาไปด้วยคนนึง และที่เมืองไทย เซกิได้พบกับ ลิลลี่ ( เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) กระเทยสุดแรดที่มีอาชีพเป็นนางโชว์ใน คาบาเร่ต์อัลคาซ่าร์ ที่ต้องสูญเสีย แองจี้ กระเทยเพื่อนซี้ไปเพราะฆาตกรคนเดียวกัน และลิลลี่ยังเป็นพยานเพียงคนเดียวที่เห็นหน้าฆาตกร แล้วรอดชีวิตมาได้

เซกิขับรถ D-Max สีดำเงาปลาบ มาช่วยลิลลี่ไว้ได้ทันจากการถูกตามสังหารจากสมุนของฆาตกรและพาตัวมาคุ้มกันที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง โดยมีตำรวจไทยมาช่วยคุ้มกัน ลิลลี่ปิ๊งเซกิตั้งแต่แรกเห็น พยายามยั่วยวนต่างๆ นานา แต่ไม่ทันไรเซฟเฮ้าส์ก็ถูกเหล่าร้ายถล่ม เซกิต้องพาลิลลี่หนีอย่างทุลักทุเลเพราะลิลลี่วี๊ดว้ายกระตู้วู้เป็นตัวถ่วงอยู่ตลอดเวลา

การถูกถล่มครั้งนี้ ทำให้เซกิรู้ได้ทันทีว่ามีคนในหมู่ตำรวจด้วยกันเป็นสายให้ฆาตกร เซกิตัดสินใจพาลิลลี่ไปหลบที่บ้าน หมวดแพท (บุศริน หยกพรายพันธ์) สาวสวยมาดเท่ห์ เจ้าหน้าที่ CSI (หน่วยพิสูจน์หลักฐาน) ที่รู้จักกันตอนที่ชันสูตรศพแองจี้ แต่เป็นคนที่เซกิรู้สึกดีๆ ด้วยและน่าไว้ใจที่สุด ด้วยความไม่เต็มใจของลิลลี่ที่กลัวว่าชะนีจะปาดหน้าเค้กเอาเซกิไปกินเป็นอาหารค่ำ เซกิให้แพทไปทำงานตามปกติ ที่ CSI แพทได้พบกับ หมวดหิน ตำรวจที่คุมคดีนี้ในเมืองไทย หมวดหินจับพิรุธบางอย่างจากแพทได้บ้านแพทถูกโจมตีทันทีโดยหน่วยคอมมานโด เซกิพยายามป้องกันลิลลี่อย่างเต็มที่แต่ด้วยกำลังที่มากกว่าทำให้เซกิต้องเพลี่ยงพล้ำ แต่ทันใดนั้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิดลิลลี่กระโดดเข้าตีศอกและใช้แม่ไม้มวยไทยกระทืบเหล่าร้ายลงไปกองกับพื้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกตะลึงของเซกิ

        

วิบากกรรมยังไม่จบสิ้น หมวดหิน (ทองขาว ภัทรโชคชัย ) ปรากฏตัวขึ้น โดยจับตัวแพทเป็นตัวประกัน แต่ก็ไม่ครณามือ เซกิร่วมมือกับลิลลี่จัดการหมวดหินจนพ่ายแพ้ไป แพทถูกลูกหลงจากหมวดหินได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นลิลลี่ก็เลยจำใจเล่าให้เซกิฟังว่า ตัวเองเคยเป็นนักมวยมาก่อน เคยขึ้นชก 13 ครั้ง ชนะน๊อครวด ตีศอกเก่งซะจนได้ฉายาว่า “ขุนขวานแห่งลุ่มน้ำชี” แต่ด้วยความอับอายว่าสาวสวยอย่างตนเอง จะเคยเป็นนักมวยได้อย่างไร จึงเก็บงำความลับนี้ไว้เท่าชีวิต และขอให้เซกิช่วยเก็บความลับนี้ไว้ด้วย ในที่สุดทั้งสองตกลงเป็นเพื่อนกัน แม้ลิลลี่จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม

ลิลลี่บอกว่ามีที่ๆ ปลอดภัยที่สุดในโลก ไม่ช้งไม่เชื่อแล้วตำรวจ พาไปที่ไหนเละทุกที ว่าแล้วก็พาเซกิกับแพทไปหาเพื่อนเก่าที่ตั้งคณะคาบาเร่ต์ โดยใช้ชื่อว่า ชาตรี ‘ส แองเจิ้ล สามสาวเผ็ด สวย ดุ อันประกอบไปด้วย เจ๊โหน่ง (วสันต์ อุตมะโยธิน ) ,ม้าเถิง (อรนภา กฤษฎี) และ ศักดิ์สปาต้า (ยุทธนา พันธ์ไพบูลย์ ) ซึ่งทั้งสามสาว ชาตรี ‘ส แองเจิ้ล มีชีวิตทำงานกลางวันแบบชายชาตรี ผู้ใช้แรงงานทั่วไป แต่ยามค่ำคืนพวกเธอแปลงร่างเป็น ชาตรี ‘ส แองเจิ้ล นางฟ้าคาบาเร่ต์ ตระเวนโชว์ตามคาเฟ่ชานเมือง โดยมีความฝันร่วมกันว่า วันหนึ่งจะเป็นนางโชว์ที่อัลคาซ่าร์ให้จงได้ และที่คาเฟ่นี้เอง ลิลลี่ก็ได้รู้ข่าวว่า ฆาตกรและลูกน้องของมันกำลังวางแผนที่จะฆ่ากระเทยล้างบาง ในงานคานิวัลประกวดกระเทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีและที่สำคัญงานนี้ประธานจัดงานก็คือ เจ๊ตือ (เกริก ชิลเลอร์ ) เจ้าของอัลคาซ่าร์ อาแท้ ๆ ของลิลลี่ และยังจะมีหมู่เหล่าผองเพื่อนกระเทยของลิลลี่ที่อัลคาซ่าร์ร่วมงานอยู่ด้วยอีกนับร้อยชีวิต สามสาวกลุ่มชาตรี ‘ส แองเจิ้ล จึงต้องรับดูแลแพทซึ่งบาดเจ็บจากถูกยิงตอนถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งลิลลี่รับปากว่าถ้ารอดตายกลับมาจะพากลุ่มชาตรี ‘ส แองเจิ้ล ขึ้นโชว์ที่อัลคาซ่าร์

เซกิและลิลลี่ บุกถล่มงานคานิวัลเพื่อกระชากหน้ากากและหยุดแผนการณ์ร้ายของฆาตกร และตัดชนวนระเบิดเวลาที่ เคน วายร้ายตั้งไว้ใต้เวทีการประกวด เซกิและลิลลี่ช่วยชีวิตกระเทยนับร้อยในงานไว้ได้อย่างทันท่วงที และขึ้นเป็นนางโชว์เบอร์หนึ่งของอัลคาซ่าร์ ร่วมกับเพื่อน ๆกลุ่มสามสาวชาตรี ‘ส แองเจิ้ล อย่างสวยงามอลังการสมใจ

         

ข้อมูลเกี่ยวกับภาพยนตร์ “คู่แรด”

ชื่อภาพยนตร์

::-  คู่แรด(The Odd Couple)

ประเภทหนัง

::-  Action-Comedy ( แอ็คชั่น คอมเมดี้ )

ผู้สร้าง

::-  สหมงคลฟิล์ม

ผู้กำกับ

::-  นพรัตน์ พุทธรัตนมณี

กำกับคิวบู๊

::-   ศักย์ภูมิ จูฑะพงศ์ธรรม

เพลงประกอบภาพยนตร์

::-  เอ๋ นรินทร ณ บางช้าง

โปรแกรมฉายในไทย 

::-  9 สิงหาคม 2550

ผู้แสดงนำ

::-  เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา (หม่ำ จ๊กมก) … ลิลลี่
::-  เซกิ โอเซกิ … เซกิ

ผู้แสดงสมทบ

::-  บุศริน หยกพรายพันธ์ … หมวดแพท
::-  อรนภา กฤษฎี … ม้าเถิง
::-  วสันต์ อุตมะโยธิน … เจ๊โหน่ง
::-  ยุทธนา พันธ์ไพบูลย์ … ศักดิ์สปาต้า
::-  เศรษฐา ศิริฉายา
::-  เกริก ชิลเลอร์
::-  มอริส เค
::-  โน้ต เชิญยิ้ม
::-  ถั่วแระ เชิญยิ้ม
::-  สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ 

Offical Site

::-  http://www.kooradmovie.com/

 

ข่าวเกี่ยวกับภาพยนตร์ “คู่แรด”

ผกก.คู่แรดยืนยัน“หม่ำ”มี“เขิน”ถูกจับแต่งหญิง แต่ “แรด”ได้ใจเมื่อวิญญาณกะเทยเข้าสิง

เห็นวาดลวดลายทะลึ่งทะเล้นฮาขำกลิ้งเป็นตลกมหาชนที่มีแฟนทั้งลูกเด็กเล็กแดงไปจนถึงคนเฒ่าคนแก่ไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ใครจะไปคิดว่า “หม่ำ จ๊กมก” เนี่ยะนะจะเกิดอาการเขินอายม้วนต้วนเป็นกับเขาเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกจับให้แต่งหญิงเป็น “ยัยลิลลี่” กะเทยล่ำตันที่นอกจากจะมีกล้ามแขนกล้ามขาขึ้นลูกเป็นมัดๆแล้ว ยังจะต้องทำท่าสะดีดสะดิ้ง วาดลีลาแจ๋นแหล๋นให้สมกับเป็นกะเทยสุดแรดใน”คู่แรด”ภาพยนตร์คอมเมดี้ขำกระจายเรื่องล่าสุดของ “ฟิล์มเอเชีย” และ “สหมงคลฟิล์มฯ”

       

โดยงานนี้ได้รับการนั่งยัน ยืนยัน ไปจนถึงนอนยันจากโจ นพรัตน์ พุทธรัตนมณี ผู้กำกับหนุ่มที่มีผลงานการกำกับละครมานับ10เรื่องรวมทั้ง วัยร้ายไฮสคูล รวมทั้งยังเป็นโปรดิวเซอร์รายการสุดฮอตอย่าง  “หักหลังผู้ชาย ON TV” พูดถึงพี่หม่ำให้เราฟัง “ที่ผ่านมาเราอาจจะเห็นพี่หม่ำในหลายบทบาท แต่หลายคนไม่รู้ว่าพอจับพี่หม่ำมาสวมชุดสายเดี่ยวเกาะอก แปลงโฉมเป็นลิลลี่กะเทยสุดแรดขึ้นมา แกก็มีอารมณ์เขินและอายเหมือนกันโดยเฉพาะวันที่พี่ๆนักข่าวมาเยี่ยมกอง แกเขินมาก แต่พอถึงเวลาที่ต้องแสดงหรือเข้าฉากไม่รู้วิญญาณความเป็นตัวละครแวบเข้ามาในร่างพี่หม่ำแกเมื่อไหร่ อาการเขินอายหายหมด แถมสะดีดสะดิ้งได้เนียนสุดๆ พูดได้เลยว่าพี่หม่ำแกสวมวิญญาณแรดได้ใจตามบทจริงๆ ไม่เพียงแค่นั้นนะครับ ยิ่งพอจับพี่หม่ำลองแต่งหน้าทำผม เอาชุดแต่ละชุดมาให้พี่หม่ำแกลองใส่ลอง เลือก ต้องบอกว่ากะเทยหม่ำกลายเป็นขวัญใจของทีมงานทุกคนในกองจริงๆ ไม่มีติดขัด รัศมีความฮาและสีสันความสนุกสนานของตัวละครตัวนี้ลอยขึ้นมาให้จับต้องได้ด้วยการแสดงของพี่หม่ำจริงๆ นี่ผมนึกภาพไม่ออกเลย นี่ถ้าหนังเรื่องคู่แรดไม่ได้พี่หม่ำมาเล่นเป็นตัวละครตัวนี้ เชื่อว่าตัวหนังคงไม่ออกมาได้ฮาชนิดได้ใจทุกคนอย่างนี้แน่ๆ”

     

ดูหนังตัวอย่าง คู่แรด