Home > เก้าอี้ > เก้าอี้คอมพิวเตอร์ เลือกให้เหมาะกับเรา

เก้าอี้คอมพิวเตอร์ เลือกให้เหมาะกับเรา

โพสเมื่อ วันที่ 15 November 2021 | เปิดอ่าน 607 views | หมวดหมู่ : เก้าอี้

เก้าอี้คอมพิวเตอร์ – เพราะยุคนี้เป็นยุคดิจิตอล จึงทำให้การทำงานต่างๆ ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ช่วยในการทำงานเป็นหลัก ด้วยความสะดวกสบายนี้ จึงทำให้หลายคน โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยทำงานที่มีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ เพื่อต้องการเคลียร์งานให้เสร็จ

แต่หารู้ไม่ว่าการนั่งทำงานเป็นเวลา นานๆ เกิน 1 ชั่วโมงโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลัง ก้นกบ สะโพก และขาเกร็ง รวมไปถึงข้อ เส้นเอ็น และอวัยวะภายใน ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามมา

ดร.แพทริก อิริคสัน ไคโรแพรคเตอร์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา ประจำคลินิกกายภาพบำบัดดีสปายน์ ไคโรแพรคติก กล่าวว่า อาชีพที่เสี่ยงเป็นโรคปวดหลังมากที่สุดก็คือ นักกราฟฟิกดีไซน์ พนักงานคีย์ข้อมูล และนักบัญชี ซึ่งบุลคลเหล่านี้มักใช้เวลานั่งอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน บางครั้งถึงกับข้ามคืนเลยก็มี ที่แย่ไปกว่านั้นยังมีวิธีการนั่งแบบผิดลักษณะท่าทาง

โต๊ะทำงานกับเก้าอี้ที่เหมาะสม

1.ควรปรับพนักเก้าอี้ของคุณให้เอียง 100-110 องศา ควรปรับพนักเก้าอี้ขึ้นลงให้เหมาะสม หากมีหมอนเล็กๆ ก็ควรนำมาพิงหลังหากจำเป็น เพื่อให้หลังตั้งตรง หรือหากเก้าอี้ทำงานมีระบบปรับหลังพนักพิงให้ปรับตำแหน่งเก้าอยู่เสมอ ให้พนักพิงสามารถรองรับช่วงโค้งของกระดูกสันหลังช่วงเอวได้ดี

2.ปรับที่วางแขน เพื่อให้ไหล่อยู่ในท่าที่ผ่อนคลาย หากที่วางแขนทำให้ทำงานไม่ถนัดก็ควรถอดออก

อควรปรับระดับความสูงของเก้าอี้ เพื่อให้ขาของคุณถึงพื้น และทำให้เข่าขนานหรืออยู่ในระดับต่ำกว่าสะโพกเพียงเล็กน้อย และควรวางสะโพกให้ไกลจากคอมพิวเตอร์ ก็จะสามารถป้องกันอาการปวดหลังที่เกิดจากการนั่งทำงานหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้

3.ปรับระยะห่างของช่วงโต๊ะไม่ควรให้ชนกับต้นขา ควรนั่งให้ระยะของขาตั้งฉากกับเก้าอี้ และควรปรับเบาะเก้าอี้ให้ได้ระดับการตั้งฉาก 90 องศาของเข่า

4.นอกจากนั่นจะมีที่พักเท้ารองใต้เท้า เพื่อไม่ให้เท้าลอยขึ้นมาจากพื้น เมื่อปรับเบาะให้อยู่ในระดับเดียวกับความสูงของเก้าอี้แล้ว ควรจะหาอะไรมารอง เพื่อให้ช่วงเข่าและเท้าผ่อนคลาย

การจัดวางตำแหน่งของแป้นพิมพ์ หรือ คีบอร์ด

1.ควรดึงถาดวางคีบอร์ดให้เข้ามาอยู่ใกล้ ๆ กับคีบอร์ด และวางให้อยู่ในตำแหน่งที่อยู่ข้างหน้า ดูว่าส่วนใดของคีย์บอร์ดที่ใช้งานบ่อยมากที่สุด ให้ปรับส่วนที่ใช้งานบ่อยๆ นั้นให้มาอยู่ตรงกลาง

2.ควรปรับความสูงของคีบอร์ดเพื่อให้ไหล่สามารถผ่อนคลาย ให้ข้อศอกอยู่ในลักษณะอ้าออกเล็กน้อยประมาณ 100-110 องศา ควรให้ข้อมือ และมืออยู่ในลักษณะตรง ถ้าหากแขนและข้อศอกสามารถตั้งฉาก 90 องศา ได้ก็จะทำให้ไม่เกิดอาการเมื่อยบริเวณแขนได้

3.ระดับคีบอร์ด ควรขึ้นอยู่กับการนั่งของคุณ หากนั่งอยู่ด้านหน้าหรือลักษณะตรง พยายามวางตำแหน่งคีย์บอร์ดให้ห่างจากตัวไปอีกทาง หากเอนตัวนอนเวลาพิมพ์งาน ก็ควรให้ตำแหน่งของคีย์บอร์ดอยู่ในลักษณะที่ถูกต้อง เพื่อให้ข้อมืออยู่ในลักษณะตั้งตรง

4.ที่วางข้อมืออาจจะช่วยทำให้คุณอยู่ในท่าที่เหมาะสมได้ ที่วางข้อมือควรใช้เป็นที่พักฝ่ามือจากการพิมพ์งานเท่านั้น ไม่ควรใช้ที่วางข้อมือในขณะที่พิมพ์งาน และไม่ควรใช้ที่วางข้อมือที่กว้างมากเกินไป หรืออยู่ในระดับที่สูงกว่าคีย์บอร์ด เพราะอาจจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแขนล้าได้

5.การวางเมาส์ควรวางให้ใกล้กับคีบอร์ดมากที่สุด และวางบนพื้นผิวที่เรียบลาดเอียงเล็กน้อย หรือใช้เมาส์วางบนที่วางเมาส์ แผ่นรองเมาส์ ก็อาจจะช่วยทำให้เมาส์อยู่ใกล้ตัวขึ้นได้

6.หากไม่สามารถวางคีบอร์ด ที่สามารถปรับได้ อาจจะต้องปรับระดับความสูงของโต๊ะทำงาน ความสูงของเก้าอี้ หรือใช้หมอนรองนั่งแทน เพื่อให้คุณนั่งได้สบายมากที่สุด

7.ไม่ควรยกหัวไหล่เมื่อพิมพ์งาน ควรผ่อนคลายบริเวณบ่า และไหล่ ให้มากที่สุด

การจัดวางจอคอมพิวเตอร์

1.ควรปรับจอภาพด้านบนสุดให้อยู่ในแนวเดียวกับระดับสายตา ควรวางจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่เหนือคีย์บอร์ด และอยู่ตรงหน้า ตรงกับระดับสายตาในขณะที่นั่งประมาณ 2-3 นิ้ว

2.ควรนั่งให้แขนห่างจากหน้าจอให้ยาวที่สุด และควรปรับระยะการมองเห็น พยายามหลีกเลี่ยงการเพ่งจ้องคอมพิวเตอร์ โดยการวางตำแหน่งจอให้เหมาะสม ถ้าจะให้ดีควรจะมีแผ่นกรองแสงเพื่อป้องกันการเสื่อมของตาด้วย

3.ปรับมุมจอคอมพิวเตอร์ในแนวตั้ง และปรับอุปกรณ์ควบคุมจอเพื่อลดการมองแสงที่ออกจากคอมพิวเตอร์ หรือควรปรับม่านหากมีแสงสว่างมากจนเกินไปทำให้มองไม่เห็นจอคอมพิวเตอร์

อย่างไรก็ตามการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย หรือกล้ามเนื้อเกร็งได้ แม้ว่าจะมีการจัดวางตำแหน่งของคอมพิวเตอร์ ปรับเก้าอี้ พนักพิง และการนั่งที่ถูกต้องแล้ว แต่การนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ก็อาจจะทำให้การไหลเวียนของเลือดหยุดชะงัก และทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าได้ ซึ่งการหยุดพักและผ่อนคลายเป็นวิธีป้องกันได้ดีที่สุด

วิธีการเลือกเก้าอี้คอมพิวเตอร์
1. วัสดุที่ใช้ผลิต ควรมีความแข็งแรง ทนทาน
2. วัสดุของเบาะนั่ง ควรนิ่ม โอบรับเข้ากับสรีระร่างกาย
3. ควรเลือกเก้าอี้ที่ทำความสะอาดง่าย อาจจะเลือกใช้สีเข้ม เพื่อป้องกันการเก่าเร็ว
4. เลือก เก้าอี้คอมพิวเตอร์ ที่ปรับระดับได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น productnation

เก้าอี้เกมมิ่งกับเก้าอี้คอมพิวเตอร์มีความแตกต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างระหว่างเก้าอี้ทั้งสองประเภทนั้น เก้าอี้เกมมิ่ง หรือ Gaming Chair ถือเป็นสินค้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานโดยเฉพาะ ผ่านกระบวนการคิดการออกแบบให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ถูกใจบรรดาเกมเมอร์และรองรับกับสรีระของผู้ใช้งาน ซึ่งแตกต่างจากเก้าอี้สำนักงาน ปกติที่ออกแบบมาเพื่อใช้นั่งในระยะเวลาไม่นานมากนัก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้บริโภคในการตัดสินใจ เลือกซื้อสินค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง เก้าอี้สำนักงาน สมัยนี้หากเราเลือกซื้อที่ราคาสูงหน่อยประสิทธิภาพ ในการรองรับกับสรีระของผู้ใช้งานก็มีมากตามมาด้วย

4 ขั้นตอนเลือกเก้าอี้เกมมิ่งให้เหมาะกับตัว

1.หาความสูงที่เหมาะสม สำหรับการเลือกเก้าอี้ให้เหมาะกับผู้ใช้งาน ก็ต้องเริ่มต้นที่การหาขนาดของเก้าอี้ที่เหมาะกับคุณมากที่สุดก่อน เพราะความสูงที่เหมาะสมจะช่วยให้เรานั่งได้อย่างถูกท่า หากเก้าอี้มีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป จะทำให้เรามีปัญหาสุขภาพตามมาเพราะมันไม่ใช่เพียงที่หย่อนก้นเท่านั้น แต่พนักวางแขนที่สูงหรือเตี้ยจนไม่เหมาะกับท่านั่งของเรา รวมไปถึงเบาะรองคอและหลังที่ไม่สัมพันธ์กับกระดูกสันหลังของเรา ก็จะนำไปสู่อาการปวดเมื่อยเมื่อนั่งเป็นเวลานานได้ทั้งนั้น อีกทั้งยังทำให้บุคลิกภาพของเราเสียหายได้ด้วยเช่น เก้าอี้ที่ตัวใหญ่เกินไปแทนที่จะทำให้เรานั่งตรงท่ากลาย เป็นทำให้เรานั่งหลังค่อมกว่าเดิม เป็นต้น โดยเราสามารถเลือกเก้าอี้ไปแบบคร่าว ๆ จากเกณฑ์ความสูงดังนี้เลย

2.เลือกเบาะรองนั่งที่ใช่ เบาะรองนั่งเป็นเหมือนหัวใจของเก้าอี้ทั้งหมดเพราะถ้าเก้าอี้ไม่นุ่มนั่งไม่สบาย รับรองว่านั่งได้ไม่ครบชั่วโมงคุณก็จะไม่อยากนั่งต่อแล้ว โดยเบาะรองนั่งนั้นจริง ๆ แล้วถูกแบ่งออกเป็น 2 ดีไซน์หลัก ๆ ได้แก่เบาะรองนั่งหน้ากว้าง (Wide) และเบาะรองนังหน้าแคบ (Narrow) ซึ่งมีผลต่อท่านั่งของคุณด้วยเช่นกัน ซึ่งเบาะทั้ง 2 ชนิดนี้ก็จะมีความแตกต่างทั้งการออกแบบและดีไซน์ชัดเจนตามนี้เลย

3.เบาะรองนั่งหน้ากว้าง หรือ Wide Seat Gaming Chair จะมีพื้นที่วางขาเยอะนั่งสบายไม่มีที่กั้นด้านข้างทำให้สามารถ จัดท่านั่งได้หลากหลาย เหมาะกับคนตัวใหญ่ ที่ต้องการพื้นที่วางขวาหรือคนที่ชอบนั่งท่าแปลก ๆ บนตัวเก้าอี้เช่นขัดสมาธิ โดยส่วนมากเบาะชนิดนี้จะเน้นการใช้งานที่สบายมากกว่าการใช้งานเพื่อสุขภาพเพราะอาจจะทำให้เราเผลอนั่งผิดท่าบ่อย ๆ

4.เบาะรองนั่งหน้าแคบ หรือ Narrow Seat Gaming Chair เป็นการออกแบบที่นิยมที่สุดในตลาดเก้าอี้เกมมิ่งในปัจจุบัน เพราะผนังกันข้าง ๆ นั้นจะช่วยรับน้ำหนักบริเวณต้นขาทั้ง 2 ข้าง รวมไปถึงกำหนดการวางขาของผู้ใช้งานให้อยู่ในช่วงที่เหมาะกับการนั่ง โดยไม่ทำลายสุขภาพของผู้นั่งมากที่สุด และแม้จะถูกเรียกว่าหน้าแคบแต่ตัวเบาะนั้นก็มีความกว้างมากพอที่จะนั่งได้แบบสบาย ๆ เลย

วิธีนั่งที่ถูกต้องช่วยลดอาการเมื่อย

1.นั่งหลังตรงและนั่งให้เต็มก้นคือหลังตรงชิดขอบด้านในของเก้าอี้ การนั่งพิงพนัก ช่วยเรื่องการจัดระเบียบหลัง ทำให้หลังตรงโดยอัตโนมัติตามแนวของพนักพิง แต่ถ้าไม่ได้นั่งพิงพนัก ต้องพยายามฝึกนั่งหลังตรงตลอดเวลา

2. ยืดไหล่ ตั้งคอตรงหากที่นั่งของเก้าอี้ลึกเกิน อาจจะหาหมอนหนุน เพื่อช่วยให้หลังตรงได้

3. ควรเลือกขนาดของโต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะสมพอดีกับสรีระ สะโพกและขาต้องตั้งฉากกัน หากเก้าอี้สูงเกินไปและปรับระดับไม่ได้ ควรหาม้านั่งตัวเล็กไว้ใต้โต๊ะเพื่อวางเท้า

4. ควรปรับระดับจอภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ให้อยู่ในระดับสายตา จอภาพ ให้ห่างจากสายตาประมาณ 12-18 นิ้ว ขณะเดียวกัน แป้นคีย์บอร์ด ก็ควรวางอยู่ในระดับเดียวกับข้อศอกและข้อมือ

โดยปกติมนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่นั้น ใช้เวลาทั้งวันไปกับการนั่งทำงานมากกว่ายืนเสียด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่ร่างกายจะส่งสัญญาณเตือนความผิดปกติ อาทิ อาการปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดบ่า หรือรู้สึกอ่อนล้า และยิ่งช่วงนี้หลายคนกำลัง Work From Home ตามนโยบาย Social Distancing ของรัฐบาลที่ออกมารณรงค์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) เป็นผลให้คุณต้องนั่งทำงานบนโต๊ะที่บ้านนาน ๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้

แถมโต๊ะทำงานที่บ้านของหลาย ๆ คน ก็อาจไม่สบายเท่าที่ทำงาน ด้วยอาศัยจัดพื้นที่ทำงานแบบเฉพาะกิจ ฉะนั้น โต๊ะ และเก้าอี้ ย่อมไม่พร้อมเท่าที่ออฟฟิคอย่างแน่นอน ไม่แปลกที่อาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) อาการปวดเมื่อยหรือชาตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายจะถามหา เมื่อเป็นเช่นนี้ ลองมาเลือกซื้อเก้าอี้ที่ถูกกับสรีระของเรา เพื่อให้ห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรมกันดีกว่า

กลับสู่หน้าหลัก – analyticred

 

  • ข่าวที่น่าสนใจ
  • ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • 5 หนังอินดี้ คนเหงาห้ามดูข้ามปี
    5 หนังบาดทรวงที่คนเหงาห้ามดูข้ามปี และแล้วก็ถึงเวลาแห่งความสุข เทศกาลของการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ช่วงเวลาที่ใครหลายคนตั้งตาคอยจะได้อยู่กับคนรักในวันหยุดยาวพร้อมกับอากาศหนาวๆ แสนโรแมนติก ฟังดูแล้วช่างเป็นการเคาท์ดาวน์ปีใหม่สุดเพอร์เฟคอะไรเช่นนี้