Home > cafe > วิธีชงกาแฟ 8 แบบ คอกาแฟต้องรู้จัก

วิธีชงกาแฟ 8 แบบ คอกาแฟต้องรู้จัก

โพสเมื่อ วันที่ 3 March 2019 | เปิดอ่าน 1,043 views | หมวดหมู่ : cafe

วิธีชงกาแฟ 8 แบบ คอกาแฟต้องรู้จัก

ร้านกาแฟ หนองคาย อุดร ลาว – วันนี้  DETAiL COFFEE Café จะมาแนะนำให้รู้จักวิธีชงกาแฟ 8 แบบ ที่คอกาแฟควรรู้ ตั้งแต่ระดับเบสิคของร้านทั่วๆไป แบบที่คุณสามารถชงดื่มเองได้ที่บ้าน จนถึงระดับที่ต้องชงโดยบาริสต้ามืออาชีพ มาลองศึกษาไปด้วยกันครับ

เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ (Espresso)

เอสเพรสโซในที่นี้ ไม่ใช่สูตรกาแฟแบบที่เราเข้าไปสั่งในร้านกาแฟแต่อย่างใด แต่เป็นวิธีการชงกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟไอน้ำ เรียกว่า Espresso Machine และได้มีการพัฒนามาเรื่อยๆจนเป็นแบบที่ใช้กันทุกวันนี้

การชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ คือวิธีการชงทั่วไปที่ใช้กันในร้านกาแฟอิสระต่างๆ โดยหลักการคือการอัดไอน้ำร้อนผ่านผงกาแฟคั่วบด ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับกาแฟแก่คั่ว ซึ่งให้รสชาติที่เข้มข้น ชัดเจน เพื่อที่จะใช้ชงเป็นเบสให้กับกาแฟสูตรอื่นๆในร้าน เช่น ลาเต้ มอคค่า คาปูชิโน เป็นต้น เครื่องเอสเพรสโซมีตั้งแต่ขนาดใหญ่แบบที่ใช้ในร้าน จนถึงตัวเล็กๆที่คุณสามารถใช้ชงกาแฟเองที่บ้านได้

การชงกาแฟดริป (Drip)

กาแฟดริป มีชื่ออื่นๆได้แก่ Pour-over Coffee และ Brewed Coffee เริ่มต้นเมื่อสาวชาวเยอรมันผู้หนึ่งได้คิดค้นกระดาษกรองกาแฟขึ้น เพื่อให้ชงกาแฟและกรองกากให้ดีขึ้น และได้แพร่หลายไปทั่วโลก

กาแฟของสายสโลวไลฟ์ และสายอินดี้ที่มีชื่อเสียงมากในช่วงก่อน ใช้เทคนิคในการใช้กระดาษดริปวางลงในถ้วยกรวยดริปที่มีรูที่ก้น ใส่ผงกาแฟคั่วของเราลงไป และค่อยๆรินน้ำร้อนลงเป็นรูปก้นหอย รอให้น้ำซึมและไหลผ่านกระดาษและกรวยดริป ประมาณ 5-10 นาที ก็จะได้กาแฟดริปหอมๆตามแบบฉบับของแต่ละคนแล้วล่ะครับ

การชงกาแฟดริปเย็น (Cold Drip)

กาแฟดริปเย็นใช้หลักการเดียวกับกาแฟดริปร้อน แต่เปลี่ยนเป็นใช้น้ำเย็นแทน โดยมีอุปกรณ์ที่เพิ่มมากขึ้น นั่นคือทาวเวอร์ 3 ชั้น โดยน้ำจะผ่านวาล์วและตัวกรองต่างๆ ซึ่งกว่าจะผ่านแต่ละชั้นลงมาถึงเสร็จสิ้น ใช้เวลาถึงประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ใช้นั่นเอง กาแฟดริปเย็นมีข้อดีคือ มีความเป็นกรดอ่อนกว่ากาแฟชนิดอื่น และเหมาะกับคนที่ท้องไส้ไม่แข็งแรง

การชงกาแฟสกัดเย็น (Cold Brew)

การชงกาแฟ Cold Brew ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่หลายคนคิด เพียงแค่คุณมีกาแฟคั่วบด น้ำเย็น กระดาษกรอง และขวดที่มีฝาปิด ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยใส่กาแฟคั่วบดลงในขวด รินน้ำเย็นลงไป และปิดฝาขวดทิ้งไว้ข้ามคืน เช้ามาก็นำมาผ่านกระดาษกรองเพื่อแยกกากกาแฟออก ก็เสร็จสิ้นขั้นตอน โดยกาแฟสกัดเย็นเหมาะกับกาแฟคั่วอ่อน และไม่บดละเอียด เพื่อให้รสชาติจะไม่เข้มมากเกินไป

การชงกาแฟไนโตร (Nitro Cold Brew)

การชงกาแฟชนิดนี้ใช้วิธีเหมือนกาแฟ (Cold Brew) แต่ทำใรปริมาณมากในแต่ละครั้ง และมีการอัดแก๊สไนโตรเจนลงไป ทำให้เกิดฟองนุ่มเหมือนฟองเบียร์บนกาแฟหอมๆ โดยเสิร์ฟเหมือนกับเบียร์คือรินจากแท็ป เป็นอีกรสชาติแปลกใหม่ที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน

การชงกาแฟแอโรเพรส (Aeropress)

การชงกาแฟแบบแอโรเพรสใช้เครื่องลักษณะเป็นเหมือนท่อ 2 ชิ้นประกอบกันเหมือนหลอดฉีดยา เวลาชงก็นำกาแฟผงใส่ลงในท่อบน ใส่น้ำร้อนลงไป คนเล็กน้อยและปิดด้วยกระดาษกรองและฝาที่เป็นตะแกรง หลังจากนั้นจับเวลา และเมื่อหมดเวลาก็พลิกท่อลง และกดเหมือนฉีดยาจะได้น้ำกาแฟออกมา

การชงกาแฟเฟรนช์เพรส (French Press)

เครื่องชงกาแฟ French Press มีลักษณะเหมือนกับกาทรงสูง ใช้วิธีใส่ผงกาแฟบดและน้ำร้อนลงไป หลังจากนั้นใส่ตัวกดตระแกรง และกดลงให้สุดกา ซึ่งวิธีนี้จำเป็นจะต้องใช้กาแฟที่บดหยาบ เพื่อป้องกันกากกาแฟไม่ให้ติดและอุดตะแกรง การชงแบบ French Press ให้รสชาติที่แท้จริงของกาแฟเพราะไม่ได้ผ่านฟิลเตอร์ใดๆนั่นเอง

การชงกาแฟไซฟอน (Siphon)

กาแฟไซฟอน ที่รู้จักกันในอีกชื่อคือ Vacuum Coffee คือการชงกาแฟด้วยหลักการของสุญญากาศ โดยตัวเครื่องจะมีลักษณะคล้ายเครื่องสกัดในห้องทดลองวิทยาศาตร์ และใช้หลักการวิทยาศาตร์หลายอย่างเช่นกาลักน้ำ และการใช้อุณหภูมิในการถ่ายเทของเหลว การชงแบบนี้จะให้กลิ่นหอมชัดเจน แต่ไม่เข้มข้นมากแบบเอสเพรสโซ

รู้จักการชงกาแฟหลายหลายแบบกันแล้ว แต่ถ้าคุณอยากลองดื่มกาแฟที่ชงด้วยความใส่ใจ เชิญได้ที่ DETAiL COFFEE Café ซึ่งเป็นที่หนึ่งใน ร้านกาแฟ หนองคาย ร้านกาแฟ อุดร และ ร้านกาแฟ ลาว สามารถลองมาดูและสอบถามการทำงานของเครื่องชงกาแฟที่ร้านของเราได้เลยครับ ไม่มีหวงข้อมูลอย่างแน่นอน