Home > ที่เที่ยว > เที่ยว บางกระเจ้า 1 วัน : ปั่นจักรยานสูดอากาศดีดีใน

เที่ยว บางกระเจ้า 1 วัน : ปั่นจักรยานสูดอากาศดีดีใน

โพสเมื่อ วันที่ 29 November 2016 | เปิดอ่าน 3,422 views | หมวดหมู่ : ที่เที่ยว

เที่ยว บางกระเจ้า 1 วัน

เที่ยว บางกระเจ้า 1 วัน แก้ไข : บางกะเจ้า ไม่ใช่ บางกระเจ้า ขออภัยที่ใช้คำผิด

นี่อาจไม่ใช่กระทู้แรกที่มีคนเขียนถึงปั่นจักรยานในบางกะเจ้า เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีจักรยาน และมีเวลาว่าง 1 วัน แบบไม่รู้ล่วงหน้า

ใครสนใจหาที่เที่ยวรอบๆกรุงเทพ ไปง่าย ใกล้ใจกลางเมือง  บางกะเจ้าถือเป็นที่ที่อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีได้อีกที่นึงในวัน

วันหยุดยาวกีฬามหาลัย มีปีละครั้งเท่านั้น ต้องใช้เวลาไปเที่ยวให้คุ้ม เราจึงวางแผนหาที่เที่ยวที่ไม่ใช่ห้าง ไปช้อปปิ้ง รอบนี้ขอเที่ยวในกรุงเทพละกัน 1 วัน กับการปั่นจักรยานในคุ้งน้ำบางกะเจ้า ที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นปอดของกรุงเทพ โอโซนดีดีใจกลางเมือง ไม่มีการวางแผนการปั่นอะไรทั้งสิ้น ไปกันแบบแรนดอม มั่วๆ หลงก็ช่างมัน ปั่นไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจออะไรดีดีระหว่างทางเอง

สถานที่ที่เราไปมามีแค่ 5 ที่เท่านั้น ใช้เวลาออกปั่นตั้งแต่ 9โมง-เกือบ4โมงเย็น
1.สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
2.ร้านกาแฟโฮมเมด
3.บ้านธูปหอมสมุนไพร
4.Bangkok Tree House
5.สวนป่า : ถนนปั่นจักรยานสีเขียว

เที่ยว บางกระเจ้า

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด เที่ยว บางกระเจ้า
– รถเมล์สาย 47 ไป-กลับ 13 บาท (เที่ยวละ 6.50 บาท)
– ค่าเรือข้ามฟากที่ท่าเรือคลองเตยนอก 20 บาท (เที่ยวละ 10 บาท)
– ค่าเช่าจักรยาน รายวัน 100 บาท
– ค่าก๋วยเตี๋ยวและน้ำ(มื้อเที่ยง) 45 บาท
– ค่าทำผ้ามัดย้อม 60 บาท
– ค่าช็อคโกแลตเย็นที่ Bangkok Tree House 80 บาท (แก้วใหญ่มาก)
รวมทั้งหมด 318 บาท

การเดินทางของพวกเรา ใช้ระบบรถสาธารณะตลอดการเดินทาง

เริ่มด้วยการนัดพบกันที่จุฬาฯตอนเช้า ขึ้นรถเมล์สาย 47 ราคา 6.50 บาท
ถ้าโชคดีก็คงได้ขึ้นรถฟรีแต่ดันโชคร้าย วิ่งตามรถเมล์ฟรีไม่ทัน ลงสุดสายที่ท่าเรือคลองเตย
เดินต่อไปที่วัดคลองเตยนอก เดินตามแนวกำแพงไปขึ้นเรือข้ามฟากที่ท่าเรือคลองเตยนอก
นั่งเรือข้ามฟาก ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ไปยังบางกะเจ้า

ค่าโดยสารเรือ คนละ 10 บาท ตั๋วเรือจะเป็น 5 บาท 2 ใบ
ตอนลงเรืออีกฝั่งต้องคืนตั๋วเรือด้วย ห้ามขยำทิ้งหรือเก็บในกระเป๋าลึกๆนะ
เพราะคุณลุงจะกดดันเรารอเรา เอาตั๋วเรือคืน ตั๋วเรือจึงยับยู่ยี่เปื่อยจนเกือบจะขาดแล้ว

รถเมล์สาย 47 ช่วง 8 โมงกว่า รถโล่งมาก แทบจะครองรถเมล์เลย

เดินเข้าไปในวัดเพื่อเดินไปท่าเรือคลองเตยนอก เดินตรงตลอดไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวเข้าวัด ก็จะเจอท่าเรือเล็กๆอยู่

เรือข้ามฟากของเรา

ถึงท่าเรือแล้ว เตรียมตัวลง ใครนั่งขวาก็โดนน้ำกระเด็นใส่กันไป

เช่าจักรยาน

บนท่าเรือมีร้านให้เช่าจักรยาน เราเลือกเช่าจักรยานเป็นแบบเหมารายวันราคา 100 บาท ใช้บัตรประชาชนแค่ใบเดียววางมัดจำจักรยานทั้งหมดไว้  แล้วเราก็ได้จักรยานคู่ใจ พร้อมแผนที่รอบๆบางกระเจ้า สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

ปั่นออกจากท่าเรือ พวกเรามีกัน 8 คัน เรียกว่าเหมือนย้อนกลับไปเป็นแก๊งแฟนฉันปั่นจักรยาน แต่เสียดายไม่กล้าร้อง โอ้…เย  โอ้เยโอ้โอ้เย ไปตามทาง กลัวว่าชาวบ้านตามถนนใหญ่จะขว้างและเขวี้ยงขวดใส่เอา พวกเราปั่นเรียงหนึ่งตามทาง ทางที่ปั่นเป็นถนนใหญ่ เวลาปั่นต้องเรียงหนึ่งและชิดซ้าย คอยระวังรถที่วิ่งไปวิ่งมาตลอดเวลา อย่าเผลอคุยกันเพลิน เดี๋ยวรถจะชนเอา

แผนที่ช่วยชีวิต

ถนนช่วงรถยังโล่งๆ ปั่นแบบแก๊งแฟนฉันได้ แต่อย่าลืมฟังเสียงรถ

ที่แรกที่จะถึงก่อนคือ สวนศรี สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ ชื่อเต็มคือ สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์ อยู่ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ขอเรียกสั้นๆ ว่า สวนศรี

สวนศรีเป็นสถานที่ที่ทุกคนต้องมา เราปั่นเข้าไปในสวนศรีพบกับสะพานที่ค่อนข้างสูง ไม่ได้ปั่นจักรยานมานาน กว่าจะขึ้นสะพานได้ ช่วงเวลาไม่ถึงนาที แต่แอบเหนื่อยนะ เนินสูงขนาดนี้ พอลงเนินก็สบายเลยแล่นฉิว ปั่นไปทางโรงเพาะชำต้นไม้ ก็พบกับป้ายหนึ่ง ตั้งเด่นเป็นสง่ามาก “NO ENTRY ห้ามเข้า” คุณลุงคนดูแลสวนก็บอกกับเราว่าให้ไปอีกทาง ทางนี้เขาซ่อมทางอยู่ ไปไม่ได้ เราก็วนไปอีกทาง เจอกับป้ายเดิมอีกแล้ว ห้ามเข้า เลยจอดคุยกันว่าทำไงกันดี ไหนๆก็มาถึงแล้ว ต้องเข้าไปปั่นข้างในให้ได้ เราจึงส่งตัวแทนเข้าไปเซอร์เวย์แถวนั้นว่าเข้าไปได้มั้ย

แล้วทีมสำรวจก็ออกมาพร้อมกับเพื่อนใหม่ 2 ตัว ตัวหนึ่งสีดำเป็นผู้ชาย มีขนหงอกแซมทั้งตัว อีกตัวหนึ่งหลังอาน สีน้ำตาลเป็นผู้หญิง เจ้า 2 ตัวนี้ จึงได้ชื่อใหม่ว่า เจ้าหงอก กับ เจ้าตาล

เจ้าหงอก

แล้วเราเจอป้าอีกคนบอกว่าซ่อมทางนิดเดียวเอง เข้าไปได้นะ ลองดู เลยลองปั่นเข้าไป

ปล. วันที่เราไปปั่นจักรยานเป็นวันพุธ ไม่แปลกใจเลยที่จะซ่อมทางข้างในเยอะ เพราะมันไม่มีคนเลยนะสิ

10 ชีวิต ทั้งปั่นทั้งวิ่ง เราปั่นเข้าไปข้างใน ผ่านไป 1 สะพานไม้ ก็พบว่า ทางถูกปิด ด้วยความซน เห็นมีทางไป ก็ปั่นลัดเลาะเข้าไปในต้นไม้ มันเป็นทางไปได้ แค่ระวังสะดุดรากไม้หน้าทิ่มแค่นั้นเอง

ปั่นไปเรื่อยๆก็เจอแผนที่ หยุดดูป้ายและแผนที่กัน ว่ามีกี่เส้นทาง ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว แรนดอมกันมาก ไปแบบไม่รู้อะไรเลย เลยปั่นต่อไปทางซ้าย เจอทางตัน วนกลับ เห็นทางเล็กๆซ้ายมือ เข้าไปในนั้น ผ่านต้นไม้ ใบไม้แห้ง รากไม้อีกแล้ว โผล่มาอีกทีเจอผ้าใบสีเขียวถูกวางกั้นไว้ แล้วพวกเราก็ลอดออกไปข้างนอก คุ้นๆแฮะ มันที่เดิมนี่ เราปั่นกันเป็นวงกลม เจ้าหงอก กับ เจ้าตาลก็ยังคงวิ่งตามมา พวกเราเลยหยุดพักกัน เจ้าตาลเกิดคึกคักอะไรก็ไม่รู้วิ่งไปวิ่งมาตลอดเวลา

ว่าจะตั้งกล้องถ่ายรูปบนพื้นซักหน่อยเพราะไม่มีขาตั้งกล้อง เจ้าหงอกก็นอนอยู่หน้าจักรยานพวกเราซะงั้น เหมือนขอเข้าเฟรมหน่อย แต่ทำเป็นเมินไม่สนใจ ไม่ยอมหันมามองกล้อง พอจะถ่ายรูป ได้ยินเสียงเหมือนตัวอะไรลงไปในคูน้ำ เจ้าตาลนั่นเอง ลงไปแช่น้ำ กินน้ำอย่างกระหาย เสียงดังจ๊วบๆ ในที่สุดเจ้าตาลก็ขึ้นมา แล้วเราก็ได้ถ่ายรูปกัน แต่เจ้าตาลไปวิ่งเล่นตรงไหนก็ไม่รู้ เลยไม่มีรูปด้วยกันเลย

จากนั้นเราก็ออกจากสวนศรี ตอนแรกมาที่นี่เพราะอยากขึ้นไปหอชมวิว จะดูนก นอนถ่ายรูปเล่น แต่ก็ดันปิดซ่อม เลยอดทุกอย่าง ที่นี่นกเยอะมาก ใครเป็นนักดูนก รับรองว่ามาที่นี่แล้วจะต้องถูกใจ แค่ยืนอยู่แป๊บเดียวยังเจอนกแซงแซวหางปลา แต่ดันไม่ได้เอาเลนส์เทเลไป เลยไม่มีภาพมาฝาก

“ หิวน้ำมาก ไปไหนดี ” เสียงคนหนึ่งในกลุ่มพูดตอนที่ยืนคิดอยู่ว่าจะปั่นไปไหนต่อ

ร้านกาแฟโฮมเมด คือ คำตอบที่เราได้จากการตกลงกัน

ออกปั่นบนถนนใหญ่มุ่งหน้าสู่ร้านกาแฟ

ปั่นไปเรื่อยๆคนนำขบวนเลี้ยวซ้ายเข้าวัดราษฎร์รังสรรค์ เลี้ยวทำไมก็ไม่รู้ รู้อีกที ใช่แล้ว เราหลงทาง! นั่งเปิดอากู๋ หาแผนที่ ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนแล้ว พอเจอพิกัดร้าน ทางที่ใช่แล้ว ก็วนกลับไปทางที่เลยมาแล้วไปยังร้านกาแฟโฮมเมด สำหรับใครที่จะไหว้พระทำบุญ วัดนี้ก็สามารถเข้าไปไหว้พระได้

พอถึงร้านกาแฟโฮมเมด ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็เกิดการช็อคโลก มองหาร้าน ร้านอยู่ฝั่งตรงข้าม ขวามือ ร้านปิด! โถ่ อุตส่าห์ปั่นย้อนมา ร้านปิดอดเลย (มีป้ายเขียนว่าร้านเปิด 22 ม.ค. 58) เราจึงตกลงกันใหม่ ไปหาน้ำกิน หิวน้ำมาก รู้สึกขาดน้ำ กลับไปที่ร้านน้ำปั่นที่ปั่นผ่านมาแล้ว แวะซื้อน้ำปั่นและกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยว มังกร ชวนชิม

ร้านปิดอะ…..

ความคิดเห็นที่ 6

ร้านก๋วยเตี๋ยว มังกร ชวนชิม เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ราคาย่อมเยา
เส้นหมี่ต้มยำลูกชิ้นปลา ราคาชามละ 35 บาท
โค้กขวดละ 15 บาท น้ำแข็งแก้วละ 2 บาท
มื้อเที่ยงจึงราคา 45 บาท (หารค่าโค้กกับเพื่อน)

จากนั้นเราก็ปั่นไปบ้านธูปหอมสมุนไพร เป็นที่ใกล้ๆกับร้านอาหาร ก่อนถึงบ้านธูปหอมสมุนไพร มีตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ซึ่งเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ วันที่ไปเป็นวันพุธ จึงอดไปตามระเบียบ ก่อนไปบ้านธูปหอมเราหลงทางกันอีกแล้ว ปั่นจนไปโผล่ท่าน้ำได้ยังไงก็ไม่รู้ แล้วพี่วินมอไซค์ใจดี ก็บอกทางบ้านธูปหอมสมุนไพร

ในที่สุดเราก็ถึงแล้ว แต่เงียบมาก วันนี้เป็นวันธรรมดา ถ้าจะเข้ามาทำธูปหรือทำกิจกรรมอะไรก็ต้องโทรมาติดต่อล่วงหน้าที่เบอร์ 02-8150729 ที่นี่มีจักรยานให้เช่าอีกเช่นกัน นอกจากที่นี่จะสอนทำธูปหอมสมุนไพรแล้ว ยังมีการสอนทำผ้ามัดย้อม และเมื่อเราเข้าไปในบ้าน เราก็ได้พบกับพี่ฝัน พี่ชายที่น่ารัก เป็นกันเองสุดๆ พาเดินดูรอบๆว่าปกติมีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้าง แล้วก็บอกว่าจะทำผ้ามัดย้อมมั้ย เดี๋ยวไปหาผ้ามาให้ พวกเราก็รีบตกลงทันที แต่ทำกันแค่ 3 ผืน ราคาผืนละ 60 บาท มีอุปกรณ์ สอนทำทุกอย่าง คนที่ไม่ได้ทำบ้างนั่งดูอย่างเพลินๆ บ้างก็นอน



ธูปหอมสมุนไพร ถ้าจะทำต้องโทรมาล่วงหน้า ต้องเตรียมอุปกรณ์

ส่วนผสมของธูปหอมสมุนไพร

มีหลายลายให้เลือก ว่าจะทำแบบไหน


พี่ฝันสอนม้วนเป็นรูปก้นหอย


ลงสีเสร็จแล้ว รอดูผลงานกัน

มีสาวชาวฮ่องกง 2 คน เข้ามาพอดี 2 สาวบอกว่าพวกเราน่ารักมากๆ จริงๆแล้วไม่รู้ว่าชมเราหรือชมผ้ามัดย้อมกันแน่ที่บอกว่าน่ารัก แต่พี่ฝันดูท่าทางจะมีความสุข ฮ่าๆๆ เสียดายถ่ายรูปติดมาคนเดียว ขาดไปอีกคนนึง

ทำเสร็จ ผลงานที่ออกมาเป็นแบบนี้ ลายก้นหอย ความสวยก็ไม่แพ้กันเลย

ทำเสร็จตากผ้าเสร็จ พี่ฝันก็บอกวิธีการซัก และรีดก่อนใช้ จากนั้นเราก็จากลากันด้วยภาพนี้ แต่เสียดายที่สาว 2 คน ปั่นจักรยานไปซะแล้ว
พี่ฝันบอกว่าแถวนี้มี Bangkok Tree House และ สวนป่า ที่ไปปั่นเล่นได้ พร้อมให้แผนที่พวกเรามา นอกนั้นปิดหมดเลยต้องมาวันเสาร์-อาทิตย์ ทั้งฟาร์มเห็ด ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย เราจากกันด้วยเสียงหัวเราะ โบกมือลากัน

มุ่งหน้าสู่ Bangkok Tree House เจอสาวชาวฮ่องกง ทักทายเซย์ไฮกัน แล้วเขาก็จากไป เราแวะพักผ่อนนั่งคุยกัน ที่นี่มีที่ให้พักพร้อมทัวร์ชมหิ่งห้อย มีดาดฟ้าให้นอนดูดาว ที่นี่มีทั้งอาหาร น้ำผลไม้ปั่น กาแฟ เราสั่งช็อคโกแลตเย็น ราคา 80 บาท แก้วใหญ่มาก



เที่ยว บางกระเจ้า
นั่งคุยกันซักพักใหญ่ก็มุ่งหน้าสู่สวนป่า ถนนสีเขียวนั่นเอง
เที่ยว บางกระเจ้า

สวนป่า : ถนนปั่นจักรยานสีเขียว

ทางปั่นจักรยานได้ทางเดียว อย่าเผลอหันคุยกันเลยนะ ได้พุ่งตกลงข้างทางแน่ บางช่วงต้องสวนกับมอเตอร์ไซค์ก็ต้องหยุดให้ผ่านไปก่อน หรือเขาหยุดให้เราไปก่อน ต้องสติดีดีเลยละ ใครปั่นจักรยานไม่แข็งต้องระวังเป็นพิเศษ

ก่อนทางเข้าสวนป่า จะมีสะพานสูงมาก ต้องกระโดดลงจากจักรยานแล้วเข็นขึ้น ปั่นขึ้นไม่ไหวแน่นอน เพราะมันชันมาก ขวามือก็ถึงทางสีเขียวแล้ว ทางจะเลียบคลอง มีราวเหล็กกั้น 2 ข้าง เลนส์ปั่นจักรยานใหญ่ ขี่สบาย ปั่นเป็นแก๊งแบบแฟนฉัน
เที่ยว บางกระเจ้า
เที่ยว บางกระเจ้า
เที่ยว บางกระเจ้า

จากนั้นเราก็เข้าไปในสวนป่าด้านซ้ายมือ ร่มบ้างร้อนบ้างสลับกัน
เที่ยว บางกระเจ้า
ไปโผล่อีกทีสนามฟุตบอลที่ไหนก็ไม่รู้ ปั่นวนไปวนมาอย่างกับนักเลง แล้วก็ตกลงกันว่ากลับกันดีกว่า เหนื่อยแล้ว เราจึงปั่นมุ่งหน้ากลับท่าเรือไปคืนจักรยาน ใกล้ถึง ขบวนจักรยานขาด นำหน้ามาเร็วเกินไปจึงเลี้ยวเข้าไปตรงสวนศรี เจอ2สาวชาวฮ่องกง เขาเลยถ่ายรูปให้ ยิ้ม
เที่ยว บางกระเจ้า

ที่เที่ยวบางกระเจ้า ปั่นจักรยานสูดอากาศ บางกระเจ้า พร้อมเดินตลาดน้ำ

  • ข่าวที่น่าสนใจ
  • ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • หัวหิน ทริปตะลุยกินทั้ง 2 วัน 1 คืน
    ครั้งแรกกับการลงรีวิวพันทิป เนื่องจากได้ไปเที่ยวหัวหินมาครับ เลยเอามาลงให้อ่านกันครับ เพราะว่าที่ได้ไปหลายๆแห่งก็หาจากรีวิวของหลายๆคนในที่นี้ ลองเข้ามาอ่านและติชมกันได้ครับ เนื่องจากตอนนี้กำลังทำงานค่อยๆเก็บเงินไปเที่ยว ไปเที่ยวไหนก็จะกลับมารีวิวกันครับ