Home > รีวิวซีรีย์ > August: Osage County ศึกวันรวมญาติ by BIOSCOPE

August: Osage County ศึกวันรวมญาติ by BIOSCOPE

โพสเมื่อ วันที่ 18 April 2016 | เปิดอ่าน 1,073 views | หมวดหมู่ : รีวิวซีรีย์

รีวิวหนัง : August: Osage County ศึกวันรวมญาติ by BIOSCOPE

ในวันที่เราเห็นสองนักแสดงสาวระดับไอคอนของฮอลลีวูดสนุกกับการเปลี่ยบบทบาทไปเรื่อยๆ ทั้ง จูเลีย โรเบิร์ต ที่แปลงโฉมเป็นนักสืบ FBI ในหนังทริลเลอร์ Secret in Their Eyes หรือเจ้าแม่ออสการ์อย่าง เมอรีล สตรีฟ ที่นึกสนุกมารับบทนักดนตรีร็อครุ่นแม่ในหนังดอมิดี้ Ricki and the Flash ไปจนถึงบทหญิงสาวไร้พรสวรรค์แต่ฝันอยากเป็นนักร้องโอเปร่าที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงใน Florence Foster Jenkins – ย้อนกลับไปช่วงปีที่แล้ว ทั้งคู่ก็ได้มาระเบิดพลังประชันบทบาทในหนังที่ดัดแปลงจากละครเวทีสุดดัง อย่าง August: Osage County
ผู้กำกับ จอห์น เวลล์ส (The Company Men, 2010) ยังคงสนุกกับการทำหนังดราม่าที่อุดมไปด้วยตัวละครจำนวนมาก เช่นเดียวกับหนังที่ดัดแปลงจากบทละครเวทีรางวัลโทนี่และรางวัลพูลิเซอร์เรื่องนี้ นอกจากจะได้ผู้เขียนบทดั้งเดิม เทรซี เลตต์ส มาดัดแปลงบทภาพยนตร์ให้ โดยเรื่องมีศูนย์กลางที่ ไวโอเลต (เมอรีล สตรีป) ผู้ชอบพูดจาไม่ไว้น้ำใจใครจนญาติระอา แถมยังติดยาระงับประสาทจากความทุกข์ทรมานของโรคมะเร็งในช่องปาก ก็ทำให้ไม่ค่อยมีใครจะยุ่งเกี่ยวกับเธอมากนัก ทว่าเมื่อวันหนึ่ง สามีติดเหล้าของไวโอเลต (คริส คูเปอร์) เกิดหายออกจากบ้านไป ทำให้เหล่าลูกสาวทั้งสามคน นำโดยพี่สาวคนโต บาร์บาร่า (จูเลีย โรเบิร์ต) ที่ก็ปากร้ายไม่แพ้กัน และบรรดาญาติๆ ต้องจำใจมาช่วยกันตามหาพ่อ ทว่าการกลับมารวมญาติครั้งนี้ ก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของวิวาทะ ที่ต่างฝ่ายต่างก็ขุดเอาปมในใจมาเฉือดเชือนกัน จนไปสู่การล่วงรู้ความลับของครอบครัวที่เก็บงำไว้มาแสนนาน
สำหรับเวลล์ส ความยากในการดัดแปลงบทละครเวทีให้เป็นหนังที่มีฉากหลังเป็นบ้านหลังในเมืองสุดเงียบเหงา ณ ออเซจ เคาน์ตี้, รัฐโอกลาโฮมา นี้ คือการคงความเข้มข้นแบบละครเวทีไว้ ภายใต้ความเป็นไปได้ของการกำกับและการแสดงแบบภาพยนตร์ นั่นจึงเป็นที่มาของการทำงานร่วมกันในการดัดแปลงบท ระหว่างผู้กำกับ ผู้เขียนบท และกลุ่มนักแสดง
“จากบทละครเวทีที่ยาวถึง 3 ชั่วโมง 10 นาที มันมีหลายสิ่งที่ผมต้องตัดสินใจตัดทิ้งเพื่อดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ แต่นักแสดงทุกคนต่างก็มีบทดั้งเดิมที่ไฮไลท์ประโยคที่พวกเขาอยากจะเล่นในหนัง ดังนั้น ทุกๆ การปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างการเตรียมตัวประจำสัปดาห์ พวกเราและนักแสดงจึงมาช่วยกันวิเคราะห์และเลือกในสิ่งที่เขาอยากเล่นจากบทกัน สัปดาห์ละ 10 หน้า ท้ายที่สุด เราจึงตัดมันทิ้งไปได้ราว 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 60 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือนั้น คือสิ่งที่นักแสดงรู้สึกว่าจำเป็นกับการแสดงของพวกเขาจริงๆ” ซึ่งสุดท้าย ตัวหนังก็สามารถส่งนักแสดงหลายๆ คนไปเข้าชิงรางวัลบนเวทีต่างๆ มากมาย ไปจนถึงเวทีออสการ์ ที่สตรีปและโรเบิร์ตต่างได้เข้าชิงในสาขานำหญิงและสมทบหญิง (แต่ชวดทั้งคู่!) โดยที่น่าจดจำเป็นพิเศษ คือการคว้ารางวัลนักแสดงกลุ่มยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังฮอลลีวูด (Hollywood Film Festival) ปี 2014