การที่ใครสักคนหนึ่งจะมารับบท โจ๊กเกอร์ นั้นคงต้องเป็นคนที่ไม่หวั่นเกรงกระแสผู้ชมจะนำเขาไปเปรียบเทียบกับ แจ็ค นิโคลสันที่เคยแสดงไว้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่ง ฮีธ เลดเจอร์ มีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วน

ฮีธ เลดเจอร์เข้าถึงบทบาทการแสดงด้วยการขังตัวเองในโรงแรมหลายอาทิตย์ หมกมุ่นอยู่กับบทบาทตัวละครโรคจิตในหนังคลาสสิกเรื่อง A Clockwerk Orange รวมถึงทดลองแต่งหน้ากว่า 8 เดือนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการดังที่เราเห็นในหนัง

ทุกครั้งที่โจ๊กเกอร์ปรากฎกายใน The Dark Knight เขาสามารถทำให้ฉากดังกล่าวโกลาหลวุ่นวาย กลายเป็นตัวร้ายที่สามารถสร้างแบบทดสอบศีลธรรมในตัวมนุษย์ ด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงหลายรางวัล รวมถึงการคว้ารางวัลชนะเลิศการแสดงสมทบยอดเยี่ยมฝ่ายชายจากเวทีออสการ์

แม้หลายคนจะชื่นชอบตัวละครโลกิเพราะความมีเสน่ห์ของทอม ฮิดเดิลสตัน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ตกหลุมรักมิติความเป็นตัวร้ายที่ถูกความริษยาครอบงำให้กระทำการบางอย่างที่เลือดเย็น

ในหนังเรื่อง Thor เราจะได้เห็นการถ่ายทอดด้านดีของโลกิที่ค่อย ๆ ถูกสิ่งรอบตัวบีบบังคับให้ตัดสินใจด้วยความทะเยอทะยาน โลกิเป็นตัวร้ายที่มีแรงดึงดูดชวนให้เราเห็นใจในชะตากรรม บางทีความเปลี่ยนแปลงของตัวละครนี้ยังทำให้หนังน่าสนใจมากกว่าหุ่นหล่อล่ำของพระเอกอย่างเทพเจ้าธอร์เสียอีก

การปรากฎตัวของ ดร. ฮันนิบาล เลคเตอร์เพียงแค่ 17 นาทีก็เพียงพอแล้วที่ฆาตกรโรคจิตสุดฉลาดคนนี้จะคุกคามนักแสดงที่ต้องเข้าฉากด้วยกัน (โจดี้ ฟอสเตอร์ถึงกับตกใจที่อยู่ดี ๆ เขาเล่นนอกบทในฉากแรกที่พบกันด้วยการเลียนสำเนียงพูดของเธอ), การปรากฎตัวทุกครั้งบนจอของเขาสร้างความรู้สึกหวาดหวั่นให้แก่คนดู และนั่นก็เพียงพอที่คณะกรรมการออสการ์จะประเคนรางวัลการแสดงนำยอดเยี่ยมฝ่ายชายให้แก่เขา

ลองสังเกตการแสดงที่สร้างความน่ากลัวของเขาจะพบว่าเขาไม่เคยกระพริบตาเวลาคุยกับโจดี้ ฟอสเตอร์ ลักษณะการพูดที่นิ่งอย่างเยือกเย็นบ่งบอกถึงสถานะคนมีการศึกษาแต่ก็ยังแฝงถึงความน่ากลัวของฆาตกรต่อเนื่องเอาไว้ในตัวเอง จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมหลายคนถึงตกหลุมรักความฉลาดของตัวละครนี้

คงไม่มีใครคาดคิดว่าอดีตเจไดที่ถูกชักจูงให้เข้าสู่ด้านมืดจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมร่วมสมัยไปแล้วทั้ง ๆ ที่เป็นตัวร้ายอันเปี่ยมไปด้วยโทสะ, ความเย่อหยิ่ง และความบ้าอำนาจอย่างก้าวร้าว แต่เมื่อตัวละครได้แสดงออกถึงด้านที่อ่อนโยน รวมถึงความพยายามกลับสู่ด้านสว่างด้วยความรัก จึงทำให้ดาร์ธ เวเดอร์เต็มไปด้วยความซับซ้อนในตัวเองที่ทำให้คนดูหลงรักอย่างไม่ยากเย็น

แรกเริ่มเดิมทีฮาเวียร์ บาเด็มนั้นปฏิเสธที่จะรับบทฆาตกรถือถังอัดแก๊สรายนี้เนื่องจากโดยส่วนตัวเขาเกลียดความรุนแรงเป็นอย่างมาก แต่เมื่อผู้กำกับหว่านล้อมเขาด้วยภาพตัวร้ายที่จะตราตรึงในใจผู้ชมตลอดกาล เขาก็ตกลงรับบทนี้ทันที

กิมมิคเล็ก ๆ อย่างการโยนเหรียญหัวก้อยเพื่อตัดสินชะตาชีวิตคนได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมหวาดเกรงฆาตกรรายนี้ที่ลงมือฆาตกรรมโดยปราศจากความปราณีและความเห็นอกเห็นใจเหยื่อ ซึ่งได้กลายมาเป็นตัวร้ายที่ผู้ชมต่างชื่นชอบจะได้เห็นในหนังแต่คงไม่ใช่ในโลกความเป็นจริง

แค่เราได้เห็นผู้พันฮานส์ ลันดาในฉากสนทนากับชาวไร่ที่ซ่อนตัวชาวยิวไว้ในบ้านก็สัมผัสได้ถึงความกดดันอย่างร้ายกาจ, ทั้งยังมีวาทศิลป์ในการพูดเป็นเลิศ, พูดได้ 5 ภาษา, มีไหวพริบอันบ่งบอกถึงความฉลาดของตัวละครนี้ แล้วเราจะไม่ตกหลุมรักตัวร้ายแบบนี้ได้อย่างไร

การแสดงที่ยอดเยี่ยมของคริสตอฟ วอลซ์ ผู้รับบทฮานส์ ลันดา ทำให้เขาเป็นผู้ชนะรางวัลออสการ์สาขาการแสดงสมทบยอดเยี่ยมฝ่ายชายด้วยครับ

ด้วยสภาพแวดล้อมการเติบโตของชาร์ลส์ ซาเวียร์ ทำให้เขามองโลกในแง่ดี เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่อยากอยู่ร่วมในสังคมกับมนุษย์ปกติทั่วไป แต่แม็กนีโต้ไม่ได้มีชีวิตวัยเด็กที่ดี เขาเติบโตมาในค่ายกักกัน เป็นวัยเด็กที่ส่งผลกระทบต่อทัศนคติของเขาที่มองว่ามนุษย์กลายพันธุ์ไม่อาจอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ ด้วยความเป็นเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่า สูงส่งกว่า แม็กนีโต้จึงต้องกำจัดมนุษย์ที่อ่อนแอกว่าให้หมดสิ้นไป

โดยแท้จริงแล้วแม็กนีโต้อาจจะแค่มีจุดยืนทางความคิดที่แตกต่างจากมาตรฐานศีลธรรมโดยทั่วไป ซึ่งนั่นเป็นเพราะประสบการณ์เลวร้ายในวัยเด็กที่ส่งผลต่อทัศนคติของเขา จึงอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราเกลียดตัวละครนี้ไม่ลง

ข่าน เป็นตัวร้ายที่ปรากฎตัวบนจอภาพยนตร์ตั้งแต่ Star Trek II: The Wrath of Khan วายร้ายที่หลุดการคุมขังออกมาตามล้างแค้นกัปตันเคิร์กและยานเอนเตอร์ไพรส์ แต่ฉบับใหม่ Star Trek Into Darkness เขากลับกลายเป็นตัวร้ายขวัญใจผู้ชม จนมีโอกาสที่สตูดิโอจะใช้คะแนนนิยมของเขาเปลี่ยนสถานะให้เป็นแอนตี้ฮีโร่ในภาคต่อ ๆ ไป

ลึก ๆ แล้วผู้ชมชอบตัวละครที่เก่งกาจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การที่ข่านเป็นตัวร้ายที่เหนือชั้นและยังมีความเท่ยิ่งกว่าเหล่าพระเอกจึงทำให้ผู้ชมอดที่จะเอาใจช่วยเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้ก็อดซิลล่าทั้งในฉบับเก่าและใหม่ จะยังคงเป็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่ทำลายบ้านเมืองในสเกลมหึมา แต่ผู้สร้างหนังเรื่อง Godzilla ฉบับใหม่ได้เลือกจะตีความให้เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เป็นสัญลักษณ์ถึงภัยธรรมชาติ และมันก็ไม่ใช่ตัวร้ายในสายตาหลาย ๆ คน มันเพียงแต่บังเอิญลุกขึ้นมาล่าเหยื่อตามธรรมชาติ โดยที่ผลข้างเคียงคือบ้านเมืองพังทลายเป็นแถบ ๆ

และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนมองว่าแท้จริงแล้วมันก็คือแอนตี้ฮีโร่ที่สร้างความเสียหายเพื่อหยุดความเสียหายที่ใหญ่โตกว่า

น่าประหลาดใจเหมือนกันที่เจ้าหุ่น T-800 ที่เป็นตัวร้ายในภาคแรกกลายเปลี่ยนเป็นตัวดีในภาคสอง เหตุผลที่พอจะอธิบายได้ง่าย ๆ ก็คือมันเป็นเพียงหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งค่าให้ทำตามคำสั่งเท่านั้น ภาคแรกมันได้รับคำสั่งให้ตามล่าสังหาร แต่ภาคต่อมามันถูกเปลี่ยนคนควบคุมโปรแกรมและได้รับคำสั่งให้คอยปกป้องเหยื่อในภาคแรก

ความดีใน Terminator 2: Judgment Day จึงทำให้ผู้ชมลืมภาพความเป็นตัวร้ายในภาคแรกและตกหลุมรักคนเหล็กในภาคต่ออย่างรวดเร็ว