Home > รีวิวหนัง > รีวิวหนัง Underworld:Rise of the Lycans สงครามโค่นพันธ์อสูร 3 ดูหนังออนไลน์

รีวิวหนัง Underworld:Rise of the Lycans สงครามโค่นพันธ์อสูร 3 ดูหนังออนไลน์

โพสเมื่อ วันที่ 1 March 2016 | เปิดอ่าน 1,560 views | หมวดหมู่ : รีวิวหนัง

รีวิวหนัง Underworld:Rise of the Lycans สงครามโค่นพันธ์อสูร 3

Underworld: Rise of the Lycans

สงครามโค่นพันธ์อสูร 3 ปลดแอกจอมทัพอสูร

ชื่อภาษาไทย

:

สงครามโค่นพันธ์อสูร3 ปลดแอกจอมทัพอสูร

ชื่อภาษาอังกฤษ

:

Underworld: Rise of the Lycans

แนว

:

Action, Adventure, Horror, Thriller

นักแสดง

:

DVD, Bill Nighy, Rhona Mitra, Steven Mackintosh, Kevin Grevioux

เรทภาพยนตร์

:

Action/Fantasy/Horror/Thriller

กำกับโดย

:

Patrick Tatopoulos

เกี่ยวกับงานสร้าง

เมื่อ Underworld เปิดตัวในปี 2003 เรื่องเล่าสงครามที่ยาวนานหลายร้อยปีระหว่างสองเผ่าพันธุ์อมตะได้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมทั่วโลก แวมไพร์ผู้โหดเหี้ยมและมนุษย์หมาป่าผู้ทารุณกลับมาอีกครั้งในซีเควล Underwolrd: Evolution และผู้ชมทั่วโลกก็ได้ดื่มด่ำกับภาพงามๆ ตัวละครแปลกพิลึกพิลั่นและแอ็กชันชวนติดตามของเรื่องกันทั่วหน้า

บัดนี้ Underworld: Rise of the Lycans จะพาแฟนๆ ย้อนกลับไปเกือบหนึ่งพันปีที่แล้ว สู่จุดเริ่มต้นของความบาดหมางยิ่งใหญ่นี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเลน ไวส์แมนและเควิน กรีฟวัส ได้เปิดเผยความลับที่เป็นแกนกลางสำคัญของสงครามยาวนานในตำนาน Underworld ออกมา ไวส์แมน ผู้กำกับสองภาคแรก รับหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างในภาคนี้ ในขณะที่กรีฟวัสก็กลับมารับบทเรซ นักรบไลแคนอีกเป็นครั้งที่สาม “ประวัติศาสตร์เป็นแรงผลักดันให้กับUnderworld เสมอมาครับ” ไวส์แมนเล่า “ในอดีต เราได้เห็นบางภาพที่แสดงให้เห็นว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร และตอนนี้ เราก็สามารถเผยทั้งหมดออกมาได้ด้วยเดธ ดีลเลอร์ ชุดเกราะของพวกเขา ม้าและฝูงมนุษย์หมาป่าน่ะครับ”

แม้แต่ก่อนที่ภาพยนตร์ภาคแรกจะถ่ายทำ ทั้งคู่ก็ได้ร่วมกันสร้างตำนานที่ซับซ้อนสำหรับพวกแวมไพร์และมนุษย์หมาป่าขึ้นมา “ผมกับเควินตั้งใจมาโดยตลอดที่จะให้หนังเรื่องนี้เป็นไตรภาคครับ” ไวส์แมน ซึ่งตอนนี้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่เป็นที่ต้องการตัวสูง เจ้าของผลงานอย่าง Live Free or Die Hard “ตอนนั้นเราตัดสินใจกันที่จะเริ่มต้นขึ้นที่ตรงกลางเรื่อง และตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วที่จะสร้างพรีเควลอย่างที่เราคุยกันมานานแล้วน่ะครับ”

“ส่วนใหญ่ของซีรีส์ Underworld นี้คือการที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดแปดร้อยปีที่ผ่านมาเป็นตัวกำหนดสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน” ริชาร์ด ไรท์ ผู้อำนวยการสร้างกล่าว “มีหลายซีเควนซ์ใหญ่ๆ ในภาคแรกที่เป็นเรื่องของอดีตเท่านั้น และในภาคที่สอง การไปเยี่ยมรังของแทนนิสก็เป็นฉากอดีตที่ยาวถึงแปดนาทีครับ”

กรีฟวัสได้เขียนบทภาพยนตร์ดั้งเดิมขึ้นกับแดนนี แม็คไบรด์ “เลนอยากจะสร้างหนังมนุษย์หมาป่าเลยถามผมว่าผมมีไอเดียอะไรมั้ง” เขากล่าว “ตอนที่เราเริ่มคิดเรื่องตัวละครและโครงสร้างโดยรวม เราก็คิดว่า ‘ถ้าเราทำเรื่องราวแบบโรมิโอกับจูเลียต ที่ฝ่ายหนึ่งเป็นมนุษย์หมาป่าและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นแวมไพร์ โดยทำให้มันเป็นเรื่องรักสมัยใหม่ที่ทั้งเจ๋งและเซอร์เรียลล่ะ’ แล้วเราก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงลักษณะที่มนุษย์หมาป่าและแวมไพร์มักจะถูกมองแล้วอธิบายถึงตัวตนของพวกเขาโดยอ้างหลักทางวิทยาศาสตร์มากกว่าเรื่องลี้ลับตามแบบฉบับน่ะครับ”

   

Underworld: Rise of the Lycans ได้สืบสาวที่มาของความบาดหมางยาวนานระหว่างไลแคนและแวมไพร์ไปจนถึงจุดเริ่มที่เกิดจากความสัมพันธ์ต้องห้าม ลูเชียน (ไมเคิล ชีน) เป็นไลแคนคนแรก เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถเปลี่ยนร่างกลับไปกลับมาระหว่างมนุษย์หมาป่าและมนุษย์ได้ดังใจ ส่วนซอนยา (โรนา มิทรา) เป็นเดธ ดีลเลอร์และลูกสาวของวิคเตอร์ (บิล ไนฮีย์) ผู้นำแวมไพร์ผู้ทรงอำนาจ “ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ได้นำไปสู่การลุกฮือขึ้นต่อต้านพวกแวมไพร์ของไลแคนครับ” กรีฟวัสอธิบาย “ทุกอย่างวนเวียนอยู่รอบความจริงที่ว่าซอนยาและลูเชียนรักกันและกัน แม้ว่าซอนยาจะเป็นลูกสาวของวิคเตอร์ มันก็มีสายสัมพันธ์บางอย่างที่ควบคุมไม่ได้ที่งอกเงยขึ้นระหว่างทั้งคู่ครับ เพียงเท่านั้นก็ทำให้มันเป็นเรื่องราวที่แตกต่างจากสองภาคแรกแล้ว”

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ที่ไวส์แมนได้ส่งบังเหียนผู้กำกับให้กับคนอื่น แพทริค ทาโทพูลอส ผู้สร้างสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ที่น่าสะพรึงกลัวของภาคแรก และผู้รับหน้าที่ออกแบบงานสร้างในภาคที่สอง ได้รับเลือกให้สืบทอดหน้าที่นี้ต่อจากเขา ไวส์แมนยอมรับว่า เขารู้สึกแปลกในตอนแรกที่ได้เห็นคนอื่นมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับ “ผมมองเห็นมันเกิดขึ้นจากเก้าอี้คนละตัว แต่เพราะผมกับแพทริคมีความผูกพันกันและเราก็สร้างหนังเรื่องนี้มาด้วยกัน ระหว่างเราก็เลยมีบรรยากาศที่สบายๆ มากๆ ครับ”
ทาโทพูลอสมองเห็นหลักเหตุผลบางอย่างในความจริงที่ว่าเขาเปิดตัวผลงานกำกับเรื่องแรกด้วย Underworld: Rise of the Lycans นี่เป็นภาคแรกที่เรื่องราวถูกบอกเล่าจากมุมมองของลูเชียนเป็นส่วนใหญ่ “ผมสร้างมนุษย์หมาป่าในภาคแรกและภาคสอง” ผู้กำกับกล่าว “ผมก็เลยคิดว่าการที่เรื่องราวนี้จะถูกบอกเล่าโดยมนุษย์หมาป่าเป็นเรื่องที่เยี่ยมไปเลย ในอดีต เราได้เห็นมนุษย์หมาป่า แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีความสลักสำคัญเท่าไหร่ แต่ในภาคนี้ เราจะมีสงครามที่เต็มไปด้วยพวกเขา หนังเรื่องนำแง่มุมความตื่นเต้นใหม่ๆ มาสู่เรื่องราว ซึ่งช่วยให้ผมสามารถสร้างโทนที่แตกต่างให้กับหนังเรื่องนี้ด้วยครับ”

บิล ไนฮีย์ ผู้รับบท วิคเตอร์ ผู้นำแวมไพร์ ยกย่องความศรัทธาของทีมผู้สร้างที่มีต่อแฟรนไชส์นี้ว่าทำให้ Underworld: Rise of the Lycans เป็นมากกว่าภาพยนตร์แวมไพร์แอ็กชันที่มีอยู่ดาษดื่น “เลน ไวส์แมน, แดนนี แม็คไบรด์และริชาร์ด ไรท์เป็นยิ่งกว่าพวกที่กระตือรือร้นครับ” เขาบอก “พวกเขาเป็นคนที่ศรัทธา พวกเขาไม่ได้ล้อผู้ชม คุณสามารถสร้างหนังแวมไพร์ขึ้นมาแบบประชดประชันได้ แต่ผมคิดว่า คุณคงจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างที่คนที่ศรัทธาจะสร้างขึ้นมาได้หรอกนะครับ” “พวกเขารักตำนานแวมไพร์และรู้จักกฎแวมไพร์ของพวกเขาเป็นอย่างดี” เขากล่าวเสริม “ผมชอบตอนที่มันเป็นเรื่องเทคนิคของแวมไพร์ ผมอยากเห็นแวมไพร์ดื่มเลือดในลักษณะที่สง่างาม ปัญหาด้านศีลธรรมถูกปฏิบัติด้วยความเคารพนับถือพอๆ กับในหนังแนวอื่นๆ ครับ”

     

     

     

 

การฉายแสงสาดส่องนักแสดง

ทีมผู้สร้าง Underworld: Rise of the Lycans รู้สึกตื่นเต้นที่สามารถรวบรวมนักแสดงที่เคยสร้างตัวละครที่น่าจดจำที่สุดของซีรีส์บางเรื่อง นักแสดงที่รวมไปถึงนักแสดงชาวอังกฤษชื่อดังหลายคนที่มีงานแสดงชุม “ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าเราจะสามารถรักษานักแสดงที่เราเคยมีไว้ได้” ไวส์แมนบอก “ผมตื่นเต้นที่ได้พวกเขาหลายคนกลับมา”

บทภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อธิบายถึงความเป็นปรปักษ์นานหลายร้อยปีระหว่างลูเชียน (ไมเคิล ชีน) และวิคเตอร์ (บิล ไนฮีย์) ด้วยพล็อตหักมุมที่อาจจะเหนือความคาดหวังของแฟนๆ “เพราะตัวละครทั้งสองซับซ้อนมากๆ ก็เลยเป็นเรื่องดีที่จะปลุกชีพพวกเขาสำหรับพรีเควลในบริบทใหม่ของอดีตน่ะครับ” ไรท์บอก

ชีน ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงบาฟตาจาก The Queen ที่ร่วมแสดงโดยเฮเลน เมอร์เรน รับบทลูเชียน ในภาพยนตร์ทั้งสามภาค และเขาก็ได้เปลี่ยนตัวละครตัวนี้จากผู้ร้ายสู่วีรบุรุษ “สิ่งหนึ่งที่ไมเคิลมักจะใส่ให้กับงานคือความรักครับ” ทาโทพูลอสกล่าว “ไม่มีอะไรหลุดรอดสายตาเขาไปได้และเขาก็จดจำรายละเอียดของตัวละครตัวนี้ได้อย่างแม่นยำครับ”

ไนฮีย์ เพื่อนร่วมแสดงของเขากล่าวเห็นพ้องด้วย “ไมเคิลเป็นหนึ่งในนักแสดงที่หาได้ยาก ที่จะสวมบทไหนๆ ก็ตามด้วยความเฉลียวฉลาด ไหวพริบและความองอาจ ไม่มีใครในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ที่จะรับบทเป็นมนุษย์หมาป่าได้ยอดเยี่ยมและทรงพลังได้อย่างไมเคิล ชีนอีกแล้ว ผมพูดได้เต็มปากเลยครับ”

หลังจากเห็นลูเชียนตายใน Underworld: Evolution ชีนก็รู้สึกดีใจและแปลกใจที่มีโอกาสได้รับบทตัวละครตัวนี้อีกครั้งหนึ่ง “ผมมีโอกาสได้เผยเรื่องราวที่เราเคยได้ยินมาในภาคแรก” นักแสดงหนุ่มกล่าว “ในตอนเริ่มต้น คุณคิดว่าเขาเป็นคนร้ายแต่คุณก็จะเริ่มเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเขามากขึ้น ไอเดียการแสดงที่มาที่ไปของตัวละครตัวนี้น่าสนใจมากๆ ครับ”

หลังจากที่ได้รับบทตัวละครตัวนี้มาสองครั้งแล้ว ตอนนี้ ชีนก็สามารถสำรวจอีกแง่มุมของเขาได้ “สิ่งหนึ่งในเรื่องราวของเราที่ผมสนใจมากที่สุดคือไอเดียของความสัมพันธ์ระหว่างลูเชียนและสัตว์ร้ายในตัวเขาครับ” เขากล่าวต่อ “วิคเตอร์ใช้ลูเชียนสมัยเป็นเด็กหนุ่มในการเพิ่มจำนวนไลแคน และลูเชียนก็ทุกข์ทรมานกับประสบการณ์นี้จนเขารู้สึกต่อต้านสัตว์ร้ายในตัวเขา และเขาก็ใช้ชีวิตของเขาไปกับการฆ่ามนุษย์หมาป่าจนถึงตอนนี้ของเรื่องครับ” “มันทำให้ลูเชียนมีความเปลี่ยนแปลงในจิตใจมากๆ ในการพยายามจะพบอิสรภาพ เขาจะต้องยอมรับบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่เขาหลีกเลี่ยงมาตลอดชีวิต และมันก็ทำให้เรื่องราวนี้ไปไกลกว่าการเป็นแค่ตำนานครับ” ชีนกล่าวด้วยอีกว่า ลูเชียนได้ปรากฏกายในฐานะผู้นำเป็นครั้งแรก “เขาเป็นคนที่สามารถปลุกความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขึ้นมาในหมู่คนที่ไม่เคยรู้สึกถึงมันได้” ภาพยนตร์ภาคนี้ยังได้เผยถึงแง่มุมใหม่ของวิคเตอร์ ผู้นำแวมไพร์ที่มีบทบาทสำคัญในภาคอื่นๆ ด้วย “เราได้เห็นว่าทำไมวิคเตอร์ถึงกลายมาเป็นแบบที่เราเห็นในภาคแรก” ไวส์แมนกล่าว “บิลมีมุมมองต่อวิคเตอร์ในแบบที่แตกต่างจากที่ผมได้เห็นบนหน้ากระดาษ เขาได้ใช้โทนแบบที่ผมชอบและผมคิดว่าผู้ชมคงจะตื่นเต้นไปกับการแสดงของเขาครับ”

    

ภาพนักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่อง Underworld: Rise of the Lycans

ทาโทพูลอสกล่าวชื่นชมการมีส่วนร่วมของไนฮีย์ในบทบาทนี้อย่างยิ่ง “คุณไม่รู้หรอกครับว่าต่อไปจะเป็นยังไง แต่คุณก็คาดหวังทุกอย่าง” เขากล่าว “บิลเปลี่ยนจากรอยยิ้มไปทำสีหน้าบิดเบี้ยวได้ภายในเสี้ยววินาที เขาได้สร้างตัวละครที่เกือบๆ จะเข้าขั้นกรองกินโยลเลยนะครับ มันทำให้เขาทั้งน่ากลัวและน่าค้นหา”

ประสบการณ์ยาวนานของไนฮีย์ทั้งในละครเวที ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักแสดงอังกฤษที่ได้รับการยกย่องสูงสุด และเขาก็ใส่ความทุ่มเทให้กับบทผู้นำเหล่าแวมไพร์มากพอๆ กับงานละครเวที “แวมไพร์เป็นกลุ่มคนที่เจ๋งอยู่แล้วครับ” ไนฮีย์กล่าว “แล้วยิ่งได้เป็นแวมไพร์อาวุโส ผมก็ยิ่งได้คำราม เย้ยหยันแต่ก็ทุกข์ทรมานด้วย เขาสองจิตสองใจเกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่เขาทำ คุณจะถูกทำให้เชื่อว่าเขามีความรู้สึกรู้สาแบบปุถุชน แต่จริงๆ แล้ว เขามีความผิดปกติทางด้านจิตใจ นี่คือผู้ชายที่ดื่มเลือดลูกสาวตัวเองและสั่งให้เธอถูกเผาทั้งเป็นได้นะครับ”

ด้วยความที่วิคเตอร์ค่อนข้างจะอ่อนเยาว์ในภาคนี้หมายความว่าไนฮีย์จะใช้เวลาเมคอัพน้อยลง “ในภาคแรก ผมต้องใช้เวลาติดชิ้นส่วนอวัยวะปลอมหกชั่วโมง เพราะผมนอนหลับมาหลายร้อยปีแล้ว และไม่มีเนื้อหนังเหลืออยู่เลย” เขาเล่า “ผมยังต้องสวมกระโปรงกำมะหยี่ตัวยาวด้วย ซึ่งไม่บ่อยหรอกนะครับที่ผมมีข้ออ้างในการสวมมัน มันก็รู้สึกสบายตัวเหมือนกันนะครับ ผมมีเชื้อสายสก็อตอยู่บ้าง มันก็เลยทำให้ผมสามารถสวมกระโปรงสก็อตได้ ไม่ใช่ว่าผมจะสวมมันบ่อยหรอกนะครับ ผมเคยสวมมันครั้งเดียวและผมก็แปลกใจที่มันให้ความรู้สึกดีขนาดไหน”

เคท เบคคินเซล ได้สร้างความตรึงตราใจไว้ในแฟรนไชส์ Underworld ด้วยการแสดงในบทเซลีน แวมไพร์เดธ ดีลเลอร์ ในสองภาคแรก ในตอนแรก โรนา มิทราก็รู้สึกหวาดหวั่นกับการได้ร่วมแสดงในแฟรนไชส์ที่มีความเกี่ยวข้องกับ “นักแสดงอังกฤษบรูเน็ตต์อีกคน พอฉันเข้าใจว่ามันเป็นพรีเควลและแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในเรื่องของตัวละคร ฉันก็รู้ว่าฉันสามารถสร้างอะไรบางอย่างให้กับตัวเองได้ค่ะ”

ทีมผู้สร้างชื่นชมความสามารถของมิทราในการถ่ายทอดความย้อนแย้งในตัวตนของซอนยาออกมาได้ “มันยากมากเลยนะครับที่จะเจอคนที่มีความเข้มแข็งอย่างเดธ ดีลเลอร์ แต่ก็มีแง่มุมเปราะบางเช่นเดียวกัน” ไวส์แมนกล่าว “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะแสดงแบบนั้นออกมาได้อย่างที่โรนาทำ”

หลายๆ อย่างของตัวละครตัวนี้ทำให้ทาโทพูลอสนึกถึงเซลีน “สำหรับผมแล้ว ซอนยาเป็นเหมือนเซลีนครับ” เขากล่าว “ซอนยาเป็นนักรบ แต่เธอก็มีความเปราะบางในตัวเช่นกัน เธอเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งก็จริง แต่เธอก็เป็นคนที่เปราะบางด้านอารมณ์มากๆ เธอเป็นคนที่อ่อนไหวทีเดียวครับ”

การรับบทแวมไพร์มือสังหารเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับมิทรา “มันแตกต่างจากบทอื่นๆ ที่ฉันเคยได้รับมาเลยล่ะค่ะ” เธอกล่าว “เธอทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ เธอเป็นผู้หญิงอารมณ์ร้อนแรงที่มีคุณสมบัติทุกอย่างแบบนักรบ แต่ก็มีความเป็นผู้หญิงที่วิเศษสุดด้วย มันเป็นอะไรที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจทีเดียวล่ะค่ะ”

แม้ว่าเธอจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่สำหรับแฟรนไชส์นี้ มิทราก็บอกว่าเพื่อนร่วมแสดงทุกคนทำให้เธอรู้สึกสบายใจในกองถ่ายมาก “ฉันไม่เคยร่วมงานกับบิลหรือไมเคิลมาก่อน บิลเองก็เป็นเหมือนร็อคสตาร์ เขาแสดงเป็นผู้นำโลกแวมไพร์ได้อย่างยอดเยี่ยมและสง่างาม และการเตรียมตัวรับบทนี้ของไมเคิลก็ไม่มีใครเทียบได้ คนมักจะพูดเสมอว่า ‘ฉันรู้สึกโชคดีจริงๆ และเป็นเกียรติอย่างยิ่ง’ และฉันก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ค่ะ มาตรฐานมันสูงมากจนฉันต้องพยายามก้าวไปถึงจุดนั้นให้ได้”

ในตอนที่เควิน กรีฟวัสกำลังสร้างโลกอันซับซ้อนของ Underworld เขาก็ทำให้แน่ใจว่าเขาได้สร้างบทบาทที่มีสีสันให้กับตัวเองในรูปแบบของ เรซ ลูกน้องคนสนิทของลูเชียน ใน Underworld: Rise of the Lycans เขามีโอกาสได้ล้วงลึกไปถึงที่มาของตัวละครตัวนี้ “ในภาคนี้ ในที่สุด เราก็รู้ว่าเขามาเป็นไลแคนได้ยังไงและทำไมเขาถึงมีความสัมพันธ์พิเศษกับลูเชียน” กรีฟวัสบอก “เรซเป็นคนที่ลูเชียนไว้ใจ เป็นมนุษย์ที่ทรงอำนาจท่ามกลางพวกทาส ลูเชียนถึงได้ต้องการให้เขามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวไลแคนของเขาครับ”

สตีเวน แม็คอินทอช กลับมารับบทแทนนิส ผู้เก็บรักษาข้อมูลของเหล่าแวมไพร์อีกครั้งหนึ่ง “ผมไม่ได้สร้างตัวละครขึ้นจากความว่างเปล่า” เขาบอก “แต่มันมีความแตกต่างครับ ตัวแทนนิสในช่วงเริ่มแรกแตกต่างออกไป ในตอนที่เราเจอกับเขาใน Evolution เขาซ่อนตัวมาได้นานแล้ว และเขาก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้น ผมมองว่าเขาเป็นเหมือนฮิวจ์ เฮฟเนอร์แห่งโลกแวมไพร์ในตอนนั้นน่ะครับ”

ทีมนักแสดงปรับตัวเข้ากับผู้กำกับคนใหม่ของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว “แพทริคไม่มีอีโกเลยครับ” ชีนบอก “และมันก็เยี่ยมมากที่ได้เห็นเขามารับหน้าที่ในหนังเรื่องนี้เพื่อดูแลงานทั้งหมด แน่นอนครับว่าเขาได้ใช้เซนส์ด้านวิชวลที่เฉียบแหลมของเขาในหนังเรื่องนี้ด้วย มันดูน่าทึ่งมากๆ”

ไนฮีย์ นักแสดงผู้คร่ำหวอดในวงการกล่าวยกย่องทาโทพูลอสอย่างสูง “ผมพูดชมแพทริคได้ไม่รู้จบเลยครับ เขาเยี่ยมมากๆ ผมเลิกคิดว่าเขาเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ตอนที่เราทำงานวันแรกได้ไม่ถึงครึ่งวัน เขาเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเป็นคนดีเลิศ เขามีเสน่ห์ เฉียบคมและฉลาด และแบ็คกราวน์ของเขาในเรื่องการออกแบบ สเปเชียล เอฟเฟ็กต์และสิ่งมีชีวิตก็เป็นประโยชน์ต่อเรามากๆ ครับ”มิทรากล่าวเห็นพ้องด้วย “สิ่งที่วิเศษสุดคือการที่เขาเข้ากับทีมงานได้ดีขนาดไหนน่ะค่ะ มันทำให้กองถ่ายเป็นสถานที่ที่มีความสุข ทุกคนได้รับการเคารพ ฉันคิดว่าระดับความถ่อมตนของเขาเห็นได้ชัดกับการที่เขายอมฟังในสิ่งที่คนอื่นๆ อยากได้และต้องการน่ะค่ะ”

  • ข่าวที่น่าสนใจ
  • ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • 10 หนังดี มีความลับ ที่ผู้กำกับไม่ได้บอก (แต่เราจะเฉลย!!)
    เมื่อความสนุกของผู้กำกับซ่อน 10 ฉากแห่งความลับเอาไว้ในหนังอย่างแนบเนียน เคยสังเกตกันบ้างไหมว่าฉากหนังแต่ละเรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่ ความสนุกและน่าติดตามในหนังแต่ละเรื่องต่อไปนี้จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อคุณรู้ว่าในแต่ละฉากนั้นมีมากกว่าภาพที่เราเห็น และนี่คือตัวอย่าง 10