เที่ยว ราชบุรี ที่เดียวครบถ้วน นี่คือบทความสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ที่อยากเดินทางมายังจังหวัดราชบุรี ซึ่งเราได้รวบรวมที่เที่ยวราชบุรีเอาไว้มากถึง 30 แห่ง ที่กิน ที่พัก อีกเพียบ! รับรองว่าบทความนี้เพียงบทความเดียว จะทำให้ท่านวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรีได้อย่างครบถ้วนแน่นอน
Cr. http://www.edtguide.com/review/444717/วันเดียวเที่ยวราชบุรี
ผมออกเดินทางจากลพบุรี ผ่านสิงห์บุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และตรงเข้าเขตจังหวัดราชบุรี โดยจุดหมายแรกของผมอยู่ที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวกครับ
ตลาดน้ำดำเนินสะดวกอยู่ในอำเภอดำเนินสะดวก เป็นตลาดเก่าแก่ซึ่งได้ขุดคลองดำเนินสะดวกขึ้นตามพระราชดำริของ ร.5 ด้วยทรงเห็นว่าการคมนาคมในพื้นที่ไม่มีถนนที่เชื่อมกับอำเภออื่นๆ โดยคลองนี้จะเชื่อมกับแม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำแม่กลอง ใช้เวลาขุดคลองประมาณ 2 ปีครับ
ผมรู้จักตลาดน้ำดำเนินสะดวกตั้งแต่สมัยผมเป็นเด็ก และคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นและต้นแบบของสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกตัวเองว่า “ตลาดน้ำ” ครับ
เที่ยว ราชบุรี
ผมไม่ได้มาที่ตลาดน้ำแห่งนี้นานมากแล้ว ภาพครั้งล่าสุดที่ผมจำได้คือ เรือพายลำน้อยใหญ่ ที่มีทั้งเรือของพ่อค้า แม่ค้า รวมถึงเรือของนักท่องเที่ยว มีการซื้อขายกันในคลองดำเนินสะดวก การจราจรภายในคลองตอนนั้นถือว่ายังคล่องตัวอยู่บ้าง จากนั้นคนขับเรือจะพาผมล่องไปตามคลองสายเล็กๆ เพื่อไปชมวิถีชีวิตของชาวบ้านละแวกนั้น ไปดูการขึ้นต้นมะพร้าว การทำน้ำตาลมะพร้าวครับ
เที่ยว ราชบุรี
เที่ยว ราชบุรี
เที่ยว ราชบุรี
เที่ยว ราชบุรี
ปัจจุบันสภาพการจรจรในคลองดำเนินสะดวกถือว่าติดขัดเอามากๆ เนื่องมาจากปริมาณของนักท่องเที่ยวที่มีมากขึ้นทุกๆ วัน สำหรับสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขาย ก็จะมีขายทั้งในเรือและบนฝั่ง มีตั้งแต่ของที่ระลึกจนถึงของทานจริงทานเล่นเลย มีทั้งข้าวหมูแดง หมูกรอบ ก๊วยจั๊บ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแห้ง ปลาหมึกย่าง กุ้งเผา ขนมจีบ ข้าวเม่าทอด ผลไม้นานาชนิดครับ
ตลาดน้ำแห่งนี้เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น. เรื่อยไปจนถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ครับ
ผมได้มีโอกาสคุยกับแม่ค้าที่เดินขายของที่ระลึก ก็เลยถามว่านักท่องเที่ยวเยอะแบบนี้ทุกวันหรือไม่ แม่ค้าบอกว่านักท่องเที่ยวมีทุกวัน แต่จะเยอะในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และถ้าหากผมชอบเดินชมบรรยากาศตลาดน้ำเดิมๆ แบบนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน ให้เดินไปจนสุดตลาดน้ำเดินสะดวก จะมองเห็นสะพานข้ามไปยังตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ได้ยินดังนั้นแล้ว ผมเลยเดินข้ามฝั่งไปยังตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักครับ
บรรยากาศของตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักแตกต่างกับบรรยากาศของตลาดน้ำดำเนินสะดวกอย่างสิ้นเชิงครับ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเพียงข้ามคลองมา บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความพลุกพล่านวุ่นวาย กลับกลายเป็นความเงียบสงบ การค้าขายที่ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักจะเป็นการค้าขายบนบกซะมากกว่า ร้านรวงเปิดเพียงไม่กี่ร้าน เท่าที่ผมเดินสำรวจจะมีร้านขายอาหาร เช่น ผัดไท ขนมเบื้องญวน ก๋วยเตี๋ยว ร้ายขายของที่ระลึกครับ
ผมมาฝากท้องที่ตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ได้ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ เย็นตาโฟ รสชาติดีแบบไม่ต้องปรุงเลย นอกจากนี้ยังมีก๋วยเตี๋ยวต้มส้มด้วย แต่ผมไม่ได้ชิมครับ สำหรับตลาดเหล่าตั๊กลัก เปิดตลาดเฉพาะช่วงเช้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ครับ
จากตลาดน้ำดำเนินสะดวกผมมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองราชบุรี ระหว่างทางแอบเห็นป้ายบอกทางมาที่วัดนักบุญอันตน โคกมดตะนอย เลยจัดการแวะเข้ามาเยี่ยมชมครับ
เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาภายในบริเวณวัด มองแทบไม่เห็นโบสถ์เลยครับ เพราะด้านหน้าของโบสถ์มีการติดตั้งเต้นท์ถาวรขนาดใหญ่บดบังทัศนวิสัยของโบสถ์ซะหมด ถ้าหากอยากชมด้านนอกของตัวโบสถ์คงต้องมามองด้านข้างเอาครับ
ภายในโบสถ์ ถึงแม้จะดูเรียบๆ ง่ายๆ แต่ก็ดูมีมนต์ขลังเชียวครับ
ผมไม่มีข้อมูลของวัดนี้เลย พยายามหาจาก google ก็ไม่มีรายละเอียดที่บอกเล่าเรื่องราวหรือความสำคัญของที่นี่เลย รู้แต่เพียงว่าเมื่อที่นี่มีงาน คริสต์ศาสนิกชนจะมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก
ถ้ำเขาบินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภายในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ถ้ำแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 20 กิโลเมตร มีป้ายบอกทางค่อนข้างชัดเจนเลยครับ
จากลานจอดรถ เราต้องเดินเท้าต่อกันสักประมาณ 200 เมตรก็จะถึงปากถ้ำ บริเวณปากถ้ำจะมีจุดชำระค่าเข้าชม เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาทครับ ที่นี่จะมีไกด์พื้นที่ไว้คอยบริการด้วย แต่ผมหาข้อมูลเกี่ยวกับถ้ำมาเรียบร้อยแล้ว เลยไม่ได้ใช้บริการครับ
ระหว่างที่ผมกำลังเดินเข้าไปในถ้ำ มองเห็นนักท่องเที่ยวเดินสวนออกมาจากปากถ้ำ แต่ละคนเหงื่อไหลไคลย้อยกันเป็นแถว เพียงแค่ยืนอยู่บริเวณปากถ้ำ ผมก็รับรู้ถึงความร้อนที่อยู่ภายในถ้ำแล้วครับ
ภายในถ้ำเขาบินประกอบด้วย 8 ห้องใหญ่ๆ แต่ละห้องก็จะมีชื่อเรียกขานตามลักษณะของหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นครับ
ห้องนี้เป็นห้องแรก ชื่อโถงอาคันตุกะ เป็นเหมือนห้องรับแขกที่ใช้ต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยหินงอกหินย้อยที่เกิดใหม่ ว่ากันว่าผู้ใดที่เข้ามาในห้องนี้นับว่าเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ และเป็นผู้มีเพื่อนฝูงมากมาย ถ้าเดินผ่านห้องนี้ไปเรื่องเศร้าโศกก็จะหายไปด้วย ตามข้อมูลบอกว่าที่ผนังถ้ำมีรูปใบหน้าของชายชราด้วย แต่ผมพยายามมองหาก็ไม่เจอครับ
สภาพทางเดินในถ้ำถือว่าไม่ลำบาก แต่ต้องระวังความลื่นจากน้ำที่หยดลงมาจากผนังถ้ำกันสักเล็กน้อย ความสว่างในตัวถ้ำถือว่าไม่มืดมาก สามารถชมหินงอกหินย้อยได้ตลอดเส้นทางครับ
ห้องที่ 2 ชื่อศิวะสถาน ตามข้อมูลบอกว่าผู้ที่ได้เข้ามาสัมผัสกับเสาหินที่เปรียบเสมือนเสาหลักเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ประจำถ้ำ ผู้นั้นจะได้รับความสุขสมหวัง คิดการใดจะสำเร็จสมอารมณ์หมาย อาการเจ็บไข้จะหายไปในทันใด โชคลาภที่คอยมานานก็จะได้รับในทันที จุดนี้ผมไม่เห็นด้วยกับคำโฆษณาชวนเชื่อให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสหินเลยครับ โดยปกติการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เราไม่ควรใช้มือสัมผัสกับสิ่งที่ธรรมชาติสร้างด้วยซ้ำ ยิ่งเป็นหินงอกหินย้อยภายในถ้ำด้วยแล้ว ไม่ควรจะใช้มือสัมผัสอย่างยิ่ง อาจจะทำให้หินก้อนนั้นเป็นรอยดำ หรือที่แย่ไปกว่านั้น หินงอกหินย้อยอาจตายได้ (เมื่อหินโดนมือสัมผัส หินก้อนนั้นอาจจะหยุดการงอกหรือย้อยได้)
ห้องที่ 3 ชื่อ ธารอโนดาต หินย้อยภายในถ้ำมีลักษณะคล้ายธารน้ำตกหินปูนที่หลั่งไหลมาสู่ผู้มาเยือน ที่ผนังถ้ำจะมีฟองหิน มีสวนหินย้อยคล้ายปะการังใต้ทะเล
ห้องที่ 4 ชื่อ สกุณชาติคูหา ที่ผนังถ้ำจะมีลักษณะคล้ายนกกางปีก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อถ้ำ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้พบเห็นจะเป็นผู้ที่มีสายตาที่กว้างไกลดุจดังพญาอินทรีย์ครับ
ห้องที่ 5 ชื่อ เทวสภาสโมสรสถาน ภายในห้องนี้มีเสาหินขนาดใหญ่หลายร้อยต้น ด้านหลังของเสาหินมีหินที่มีลักษณะเป็นธารน้ำตกเกิดใหม่ เชื่อว่าที่นี่เป็นสถานที่ชุมนุมของเหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตในถ้ำ ผู้ที่เข้ามาถึงที่ห้องนี้ ภายภาคหน้าจะมีความเจริญ ไม่มีทุกข์ จะมีสมองที่สดใสครับ
ห้องที่ 6 ชื่อ กินนรทัศนา หรือ กินนรีทัศนา ผนังของห้องนี้จะเป็นสีขาว เชื่อกันว่าผู้ที่พบเห็นจะมีอายุยืนยาวและได้รับการยกย่องเชิดชู ในห้องนี้ยังมีหินรูปเต่า และบ่อน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เคยแห้ง ใช้เป็นน้ำสาบานและน้ำมนต์ของพระชื่อดังครับ
เที่ยว ราชบุรี
เที่ยว ราชบุรี
ห้องที่ 7 ชื่อ พฤกษาหิมพานต์ ผู้ค้นพบจินตนาการหินงอก ที่ราบเรียบประดุจค้างคาวกางปีก ผมพยายามมองก็ไม่เห็นว่าจะมีส่วนไหนที่มีลักษณะคล้ายค้างคาวเลยครับ ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องนี้จะเป็นสวนหิน มีต้นไม้เป็นรูปหินย้อยและเสาหินมากมาย เชื่อกันว่าผู้ที่เดินทางมาถึงห้องนี้จะมีบ้านเรือนที่สุขสดชื่นระรื่นใจ เป็นที่รักและพึ่งพาของลูกหลานครับ
มาปิดท้ายที่ห้องที่ 8 ชื่อ อุทยานทวยเทพ เชื่อว่าเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำ นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ เพราะเชื่อว่าจะมีความโชคดีเป็นศรีสุข หมดทุกข์หมดโศกหมดโรคหมดภัยครับ
สำหรับการเดินภายในถ้ำแนะนำให้เดินไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ อย่าเดินออกนอกเส้นทางนะครับ เพราะจะพาลให้หลงได้ อากาศภายในถ้ำร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก ไม่ต่างอะไรกับห้องอบซาวน่าเลย เสื้อผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ เมื่อเดินออกมาถึงปากถ้ำต้องขอหยุดพักสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดซะก่อน ไม่งั้นมีหวังเป็นลมแน่ครับ
ผมว่าหินงอกหินย้อยภายในถ้ำก็สวยใช้ได้เลยครับ แต่เสียที่การประดับไฟบางจุดยังไม่ประณีตเท่าที่ควร คือมีการเอาไฟมาตั้งโด่เด่เลย ดูขัดตาเป็นอย่างมาก ถ้าหากหลบมุม เอาหลอดไฟซ่อนไฟไว้ตามซอกหิน จะทำให้ถ้ำน่าสนใจมากยิ่งขึ้นครับ
ก่อนเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปผมคงต้องเปลี่ยนเสื้อ เพราะเสื้อที่ใส่อยู่ ณ ตอนนั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ หากใส่เสื้อเปียกแบบนี้ขึ้นรถ เบาะรถก็คงจะชุ่มเหงื่อด้วยเช่นกัน
ผมใช้เส้นทางมุ่งหน้ากลับมายังตัวเมืองราชบุรีอีกครั้งและแวะชมอุทยานหินเขางูก่อนเข้าตัวเมืองครับ
รวม 7 ภาพยนตร์หญิงแกร่งต้อนรับวันสตรีโลก
รีวิวหนัง : รวม 7 ภาพยนตร์หญิงแกร่งต้อนรับวันสตรีโลก วันที่ 8
หัวหิน ทริปตะลุยกินทั้ง 2 วัน 1 คืน
ครั้งแรกกับการลงรีวิวพันทิป เนื่องจากได้ไปเที่ยวหัวหินมาครับ เลยเอามาลงให้อ่านกันครับ เพราะว่าที่ได้ไปหลายๆแห่งก็หาจากรีวิวของหลายๆคนในที่นี้ ลองเข้ามาอ่านและติชมกันได้ครับ เนื่องจากตอนนี้กำลังทำงานค่อยๆเก็บเงินไปเที่ยว ไปเที่ยวไหนก็จะกลับมารีวิวกันครับ