ถ้าพูดถึงความเย็นสบายต้องนึกถึงดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ยอดดอยที่สูงที่สุดในไทย และยอดเขาที่ขึ้นง่ายสุดของไทยด้วย เพราะสามารถขับรถยนต์ขึ้นยอดดอยได้เลย ตลอดเส้นทางหมายเลข 1009 มีที่เที่ยวมากมาย ตาม 6 จุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดบนเส้นทางเที่ยวดอยอินทนนท์ ครั้งนี้ “นายรอบรู้” มีโอกาสไปเที่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ที่จัดทริปเต็มตามรอยพิพัฒน์ อัศจรรย์แห่งขุนเขา (ชวนกันแอ่วดอย ตามรอยพ่อหลวง)
1. ทักทายพระอาทิตย์ตอนเช้า ถ้าไม่อยากพลาดซีนนี้ต้องตื่นเช้าเพื่อขึ้นดอยอินทนนท์ให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น แล้วรอเวลาแสงแรกจากจุดที่พระอาทิตย์ขึ้นสวยที่สุดแห่งหนึ่งคือจุดจอดรถทางขึ้นกิ่วแม่ปาน เพราะเป็นพื้นที่เปิดมองได้ไกลสุดสายตา ยิ่งมาในช่วงที่แสงที่จับขอบฟ้าเป็นเส้นตรงเหลืองทองอร่าม ในบริเวณนี้มีร้านขายข้าวต้มและกาแฟให้คลายหนาว เพราะตอนเช้าอากาศจะหนาว
2.กิ่วแม่ปาน จากจุดจอดรถสามารถเดินเข้าไปในกิ่วแม่ปานได้ มีระยะทางประมาณ 3 กม. ช่วงแรกผ่านป่าดิบเขา มีสะพานไม้ข้ามลำธาร จากนั้นก็จะทะลุสันกิ่วแม่ปานที่เป็นทุ่งหญ้า มองเห็น อ. แม่แจ่ม เดินไปอีกนิดจะพบดงกุหลาบพันปีที่ราวต้นเดือน ม. ค. – ก.พ.จะออกดอกสีแดงพราวไปทั้งต้น ตลอดเส้นทางจะพบกับพืชหลากหลายชนิดตั้งแต่เฟินไม้เล็กๆอย่างมะยมดอย ต่าไก่ป่า บางช่วงยังมีเห็ดรูปร่างแปลกตาด้วย
3.ยอดดอยอินทนนท์ จากกิ่วแม่ปานนั่งรถขึ้นบนยอดดอยอินทนนท์ บริเวณยอดดอยเรียกว่าอ่างกาหลวง เนื่องจากมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำขังตลอดปีและมีหินก้อนใหญ่รูปทรงเหมือนกาตั้งอยู่
จากลานจอดอันเป็นที่ตั้งสถานีเรดาห์ของกองทัพอากาศ เดินขึ้นไปซักพักจะเจอป้าย “สุงสูดแดนสยาม” ที่ต้องรอคิวแคปเจอร์กันนานซะหน่อย ถัดไปเป็นเจดีย์บรรจุพระอัฐิของเจ้าอินทวีชิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่และเป็นที่มาของดอยอินทนนท์
จากนั้นเป็นจุดหมุดแสดงความสูงสุดจากระดับน้ำทะเลของดอยอินทนนท์ซึ่งสูง 2565.3341 ม. ไม่ไกลกันเป็นสะพานไม้ที่ตัดผ่านป่าดิบเขาที่ปกคลุมด้วยมอส เฟินดูคล้ายป่าดึกดำบรรพ์ เดินได้สักพักจะเจอกับร้านกาแฟและพุ่มดอกกุหลาบพันปี
4. พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนพภพภูมิสิริ ทางเข้าค่อยข้างจะแคบ ในช่วงเทศกาลรถต้องรอคิวขึ้นกัน เมื่อขึ้นมาแล้วจะพบกับสองเจดีย์คือพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนพภพภูมิสิริ ตามประวัติในปี 2530 กองทัพได้สร้างพระมหาธาตุนถเมทนีดลขึ้นเพื่อเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทางพระเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ต่อมาในปี 2535 ก็ได้จัดสร้างพระมหาธาตุนภพลราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระนามเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ทั้งสองเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนยอดปลี การขึ้นชมบนเจดีย์ปัจจุบันมีสร้างบันไดเลื่อนสำรับขาขึ้น บริเวณรอบพระมหาธาตุทั้งสองตกแต่งจัดสวนอย่างงดงาม เป็นจุดทิวทัศน์ชมทะเลหมอกในช่วงเช้าและถ้าฟ้าเปิดจะมองเห็น อ. แม่แจ่มด้วย
5. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ (โทร.0-5328-6777-8)จากทางหลวงหมายเลข 1009 เลี้ยวมาจากทางหลวงหมายเลข 1284 เข้ามายังบ้านแม่ขุนกลาง ที่นี้แม้จะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้เสร็จเพื่อพัฒนาชีวิตของชาวบ้านตั้งแต่ ปี 2522 จนเกิดเป็นสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ขึ้น
เพื่อส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาเพาะปลูกพืชเมืองหนาวจนสร้างรายได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันทางสถานีเกษตรหลวงฯได้นำเอาปลาเทราต์เรนโบว์และปลาสเตอเจียนซึ่งเป็นปลาในเขตหนาวเข้ามาเลี้ยงเพาะพันธุ์ จนสำเร็จสามารถเพาะพันธุ์ได้แล้ว ปลาทั้งสองปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของน้ำบนดอยอินทนนท์ได้ โดยน้ำจะต้องเป็นน้ำไหลผ่านจากน้ำตกสิริภูมิซึ่งเป็นน้ำจากตาน้ำที่สะอาด ส่วนใครกลัวว่าปลาเทราต์และปลาสเตอเจียนซึงเป็นเอเลี่ยนสปีชีที่สร้างความเดือดร้อนให้กับระบบนิเวศบนดอยอินทนนท์ ทางสถานีเกษตรหลวงได้ป้องกันโดยสร้างบ่อที่แข็งแรงและมีตะแกรงเหล็กกันปลาว่ายหนีเข้าสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
อย่างที่รู้กันว่าปลาสเตอเจียนสามารถให้ไข่ที่นำมาทำ คาเวียร์ ได้แต่ใครจะรู้ว่าไข่ปลาเทราต์ก็ทำคาเวียร์ได้เช่นกัน จริงๆ คาเวียร์ (Caviar) แปลว่าไข่ปลาที่ปรุงรสแล้ว แต่คาเวียร์ที่รสเลิศต้องเป็นปลาสเตอร์เจียน แต่ทางสถานีเกษตรหลวงสามารถผลิตได้เป็นคาเวียร์สีดำและสีส้มเหลือง เจ้าหน้าที่บอกว่า คาเวียร์สีดำได้จากปลาสเตอร์เจียนที่เลี้ยงดูอย่างดีถึง 9ปี ถึงจะมาทำคาเวียร์ได้
ภายในสถานีเกษตรหลวงฯยังจัดสวนแสดงไม้ดอกและพืชเมืองหนาวอย่างสวยงาม ที่ห้ามพลาดคือสวนสิริภูมิเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์เฟินทั้งของไทยและต่างประเทศ ไม้ดอก และพืชกินแมลง หลายคนมักชอบมาถ่ายรูปตรงบ่อน้ำกลางสถานีซึ่งมีกังหันน้ำและหงส์ 2 ตัว สีขาวและสีดำว่ายอวดโฉมรอให้เชลฟี่ด้วย รอบๆบึงปลูกก่วมแดงหรือที่รู้จักว่า “เมเปิ้ล” ในช่วงหน้าหนาวจะออกใบสีแดงสวยงาม
ส่วนใครที่อยากลิ้มลองรสชาติของปลาเทราต์เรนโบว์และปลาสเตอร์เจียนแนะนำให้มาที่ร้านอาหารของสถานีเกษตรหลวงฯ นำมาทำเป็นสเต็กปลาสเตอร์เจียนกินกับผักสลัดและปลาเทราต์ทอดกระเทียมเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ด ปิดท้ายด้วยพานาคอตต้าสตรอเบอร์รี่
6. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง (โทร.0-5331-8333)จุดน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของเส้นทางดอยอินทนนท์คือศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวาง ตั้งขึ้นเพื่อสนองนโยบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงมีพระราชประสงค์ต้องการพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขาทั้งม้งและชาวปกาเกอะญอ
ในปื 2528เป็นศูนย์วิจัยทดลองไม้ดอกและไม้เมืองหนาว เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อนบนเทือกเขาถนนธงชัยซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,300-1,400 ม. จึงมีอากาศหนาวตลอดปี ปัจจุบันภายในโครงการมีเส้นทางดอกไม้ระยะทางประมาณ 1 กม.
ทิวต้นนางพญาเสือโคร่งที่สาดสีชมพูสะพรั่งราวเดือน ม.ค. – ก.พ. หลายคนจึงมักมองหามุมสวยๆ โพสต์เก๋ๆกับฉากสีชมพูหวานซึ่งตัดกับฟ้าสีคราม หรือบางคนก็เดินชมความพราวฟรุ้งฟริ้งยามที่ตัวดอกต้องสีทองของแดดยามเช้า ยิ่งเวลาเดินอยู่แล้วกลีบดอกพัดปลิวไปตามกระแสลมก่อนที่ร่วงลงพื้นเป็นพรมผืนปูลาดไปถนน เป็นช่วงเวลาสุดโรแมนติกที่หาได้จากในชีวิตจริง
นอกจากทิวดอกนางพญาเสือโคร่งแล้วทางโครงการยังมีแปลงทดลองไม้เมืองหนาวอีกมากมายที่ปลูกหมุนเวียนไปตามฤดูกาล จากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนวางใช้เส้นทาง 1248 แล้ววิ่งเข้าทางหลวงหมายเลข 1013 เพื่อเข้าตัวเมืองเชียงใหม่เลย
จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยที่นี่มีทั้งธรรมชาติที่สวยงาม วัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของคนท้องถิ่น พร้อมทั้งอาหารการกินยังหลากหลายและอุดมสมบูรณ์อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถขับรถไปเที่ยวแบบเช้า-เย็นกลับได้แบบสบาย ๆ กาญจนบุรีได้ชื่อว่ามีธรรมชาติที่งดงามมาก ๆ เมื่อธรรมชาติมาผสมผสานกับอาหารกิน ที่นี่จึงมีร้านอาหารรสชาติอร่อย บรรยากาศดี รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย โดยเฉพาะร้านอาหารริมแม่น้ำ กระปุกดอทคอมจึงขอคัดแบบเน้น ๆ เลือกเอา 8 ร้านอาหารริมน้ำกาญจนบุรีบรรยากาศดี ๆ มาฝากกัน จะมีที่ไหนบ้างล้างท้องเตรียมพุงไว้แล้วตามเราไปเลยค่ะ
ร้านครัวต้นแม่กลอง
กลายเป็นร้านอาหารริมแม่น้ำที่ฮอตฮิตติดอันดับต้น ๆ ของเมืองกาญจน์ไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ #แพห้อยขาพาชิลล์ ณ ร้านครัวต้นแม่กลอง ซึ่งนอกจากจะตั้งอยู่บนลำน้ำแม่กลอง ซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาและทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีการออกแบบร้านแบบเก๋ ๆ ด้วยการจัดที่นั่งรับประทานอาหารให้ลูกค้าสามารถหย่อนขาลงไปในแม่น้ำได้อีกด้วย จึงทำให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายกับทั้งบรรยากาศและสายน้ำแม่กลอง ที่นี่ให้บริการอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน พร้อมทั้งอาหารป่าแบบครบเครื่อง อาหารแนะนำ อาทิ แกงส้มปลากดหน่อไม้ดอง, น้ำพริกปูหลน, ยำตะไคร้หอม, ปลากดนึ่งมะนาว, กุ้งทอดสลัดครีม, ปลากดทอดราดน้ำปลา เป็นต้น
ที่ตั้ง : 19/235 ถนนไชยชุมพล ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-21.30 น.
โทรศัพท์ : 0 3451 1221, 08 1815 0230, 08 1868 0825
เว็บไซต์ : jrqueen, ครัวต้นแม่กลอง
ร้านคีรี ธารา
หลังจากเดินเที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแควอย่างอิ่มใจแล้ว อย่าลืมแวะมาอิ่มท้องที่ร้านอาหารคีรี ธารา ซึ่งเป็นร้านอาหารสุดหรูหราริมแม่น้ำแคว อยู่ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควเพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้น จากร้านอาหารสามารถมองเห็นสะพานแม่น้ำแควได้อย่างชัดเจน มีอากาศเย็นสบายและผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีเพลงโฟล์คซองขับกล่อมเบา ๆ สร้างความโรแมนติกให้กับที่นี่ได้อย่างดีทีเดียว ร้านอาหารคีรี ธารา ให้บริการอาหารไทยและอาหารพื้นเมือง เมนูที่ไม่ควรพลาด อาทิ ปลาช่อนคีรี, น้ำพริกธารา, ยำถั่วพู, เขียวหวานผัดแห้งห่อไข่, ยำขาหมูทอดกรอบ เป็นต้น
ที่ตั้ง : เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-23.00 น.
โทรศัพท์ : 08 7415 8111 , 0 3462 4093
เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก : keereetarav, Keeree Tara Restaurant
ร้านธาราบุรี กาญจนบุรี
อีกหนึ่งแพอาหารอันโด่งดังของจังหวัดกาญจนบุรี ที่เปิดมายาวนานกว่า 20 ปี ตั้งอยู่บนลำน้ำที่สวยงามที่สุดอย่างแม่น้ำแม่กลอง จึงทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับภาพของแม่น้ำที่งดงาม พร้อมทั้งแนวเทือกเขาสีเขียวขจีเบื้องหน้า และยังจะได้ดื่มด่ำไปกับบทเพลงเบาสบายหลากหลายแนว นอกจากนี้ที่นี่ยังมีมุมบาร์ค็อกเทลให้ได้ไปลิ้มลองเครื่องดื่มมากมายอีกด้วย เมื่อไปถึงธาราบุรีต้องไม่ควรพลาดเมนูยำเห็ดโคน, ต้มยำเห็ดโคน, ยำโคนคะน้ากุ้งสด, แกงป่าไก่บ้าน, ปลาคังลวก, ปลาค้าวทอดน้ำปลา, ยำถั่วพู, ทะเลเผา และหอยกระทะร้อน เป็นต้น
ที่ตั้ง : 48 ถนนสองแคว ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-24.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3451 2944
เว็บไซต์ : taraburee
แพอาหารคุณอี๊ด
ร้านอาหารดั้งเดิมเก่าแก่บนแพริมแม่น้ำแควใหญ่ อยู่ห่างจากที่เที่ยวสำคัญอย่างสะพานข้ามแม่น้ำแควไม่ไกลนัก โดยบรรยากาศภายในร้านเป็นไปอย่างผ่อนคลาย มีการบริการอย่างเป็นกันเอง สามารถชมวิวของแม่น้ำแควใหญ่ได้อย่างสวยงาม ให้บริการอาหารไทยและอาหารพื้นบ้านรสชาติดั้งเดิม ผสมผสานกับการปรุงรสตามสูตรของทางร้าน กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะมีใครเหมือน อาหารแนะนำ อาทิ น้ำพริกกุ้งสด, ปลาแรดทอดน้ำปลา, ซี่โครงอ่อนสับผัดใบยี่หร่า, ปลาค้าวทอดราดน้ำปลา, ต้มข่าไก่ และปลาเนื้ออ่อนฉู่ฉี่ เป็นต้น
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3451 2787
เฟซบุ๊ก : แพอาหารคุณอี๊ด
แพอาหารโฟลทติ้ง
แพอาหารโฟลทติ้ง โดดเด่นด้วยที่ตั้ง เพราะตั้งอยู่ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพียงไม่กี่ก้าวจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว ก็จะได้สัมผัสกับอาหารรสชาติอร่อยแล้ว ซึ่งจากที่ร้านอาหารก็สามารถที่จะเพลิดเพลินไปกับวิวของแม่น้ำแคว พร้อมทั้งได้ชมรถไฟวิ่งข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควอย่างสบาย ๆ มีลมเย็นพัดตลอด ทำให้มีบรรยากาศผ่อนคลายสุด ๆ ที่นี่ให้บริการอาหารไทย อาหารป่า มีหลากหลายเมนูที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะเมนูปลาแม่น้ำและอาหารป่า
ที่ตั้ง : 425 เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-22.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3462 5055
เฟซบุ๊ก : Riverkwai Floating Restaurant
ร้าน By de river
ด้วยความอร่อยของอาหารและบรรยากาศสุดเลิศของร้าน จึงทำให้ร้าน By de river เป็นร้านอาหารอันดับต้น ๆ ของจังหวัดกาญจนบุรีที่คุณไม่ควรพลาด โดยพิกัดของร้านอยู่ติดกับแม่น้ำแควใหญ่ ทำให้สามารถชื่นชมกับบรรยากาศของสายน้ำและภูเขาได้อย่างเต็มที่ ภายในร้านเย็นสบาย พนักงานต้อนรับอย่างเป็นกันเอง มาถึงที่นี่ต้องไม่พลาดเมนู เช่น ผัดเผ็ดตู๊ส, ผัดฉ่าปลาคัง, แกงป่าไก่, ปลากะพงสามรส และแกงคั่วขาเห็ด เป็นต้น การนั่งรับประทานอาหารไทยรสชาติเด็ด ภายใต้บรรยากาศตะวันลับขอบฟ้าริมแม่น้ำแควใหญ่…เป็นอะไรไม่ควรพลาด !
ที่ตั้ง : 268/1 ถนนแม่น้ำแคว ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 17.00-24.00 น.
โทรศัพท์ : 034 624 477
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก imnambyderiver
ห้องอาหารเปปเปอร์ โรงแรมยู อินจันทรี กาญจนบุรี
ห้องอาหารเปปเปอร์ ตั้งอยู่อย่างสวยงามบนคุ้งน้ำของแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็นสายน้ำแควใหญ่และเทือกเขาสูงใหญ่เบื้องหน้าได้อย่างชัดเจน บรรยากาศรอบข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงน้ำไหลและเสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ เท่านั้น ที่นี่จึงมีความเป็นส่วนตัวเหมาะสำหรับการดินเนอร์กับคนพิเศษ อาหารมีให้เลือกทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติหลากหลายเมนู
ที่ตั้ง : โรงแรมยู อินจันทรี กาญจนบุรี 443 ถนนแม่น้ำแคว แยกท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 06.30-23.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3452 1584, 08 6368 7014
เฟซบุ๊ก : Peppers Restaurant Kanchanaburi
Loft Restaurant & Bar ร้านอาหารกาญจนบุรี
ให้คุณอิ่มเอมกับบรรยากาศของแม่น้ำแควอย่างเต็มที่ พร้อมกับสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกในยามเย็นและค่ำคืนที่ Loft Restaurant & Bar ภายในร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น มีทั้งส่วนในร่มและกลางแจ้งริมแม่น้ำ ซึ่งในส่วนของริมแม่น้ำสามารถมองเห็นธรรมชาติรอบด้านได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยามค่ำคืนยังมองเห็นดวงดาวมากมายบนท้องฟ้าอีกด้วย ที่นี่ให้บริการอาหารไทยและอาหารนานาชาติ มีเมนูแนะนำ เช่น ไก่ทอดขมิ้น, ปลากะพงนึ่งมะนาว, ไก่กรอบเขียวหวานผัดแห้งโรตี, ต้มยำกุ้งโซดามะพร้าวอ่อน, ปลากดเหลืองทอดน้ำปลากับยำมะม่วง, กวางช็อกโกแลต, ซาซิมิรวมเรือใหญ่ และอกเป็ดย่างซอสพริกเผา เป็นต้น
ที่ตั้ง : 431 ถนนแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : 17.00-01.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3451 3000
เฟซบุ๊ก : Loft Restaurant&Bar
ทั้งหมดนี้เป็นร้านอาหารริมน้ำที่คุณไม่ควรปล่อยผ่านไปเมื่อไปเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี นอกจากจะได้ลิ้มรสอาหารแสนอร่อยแล้ว ยังได้ฟินกับบรรยากาศดี ๆ อีกด้วย ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวกาญจนบุรีก็อย่าลืมจดร้านอาหารเหล่านี้เข้าไปในที่ที่ห้ามพลาดของกาญจนบุรีด้วยนะคะ
ชั้นวางเอกสาร 5 ชั้น
ชั้นวางเอกสาร 5 ชั้น ชั้นวางเอกสาร 5 ชั้น