Kung Fu Dunk กังฟูดังค์ ศึกบาสทะยานฟ้า
:+:+:+: เรื่องย่อภาพยนตร์ Kung Fu Dunk กังฟูดังค์ ศึกบาสทะยานฟ้า :+:+:+:
ซื่อเจี๋ย (เจย์ โชว) คือเด็กหนุ่มที่เติบโตในโรงเรียนสอนกังฟู เขามีโอกาสได้ฝึกฝนวิชากังฟูจนฝีมือยอดเยี่ยม และเป็นคนที่มีจิตใจที่ดี ต่อมาหลังได้แสดงฝีมือในการสแลมดั้งอย่างยอดเยี่ยมอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง เฉินหลี่ (อีริค ชาง) เจ้าของไอเดียร้าย ๆ และเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน ได้เลือกตัวซื่อเจี๋ยเข้าทีม และเพื่อช่วยซื่อเจี๋ยตามหาครอบครัวของเขา เฉินหลี่ได้ชวนซื่อเจี๋ยให้ไปเล่นบาสเกตบอลที่มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ดีเฉินหลี่คิดจะหาเงินจากความสามารถของซื่อเจี๋ยด้วย หลังจากเข้าร่วมทีมบาสเกตบอลแล้วซื่อเจี๋ยพบว่า ลีลี่ (ชาร์ลีน ชอย) ผู้หญิงที่เขาแอบชอบมานานคือน้องสาวของ ติงเหว่ย (เฉินป๋อหลิน) ผู้นำของทีมบาสเกตบอล ซื่อเจี๋ยพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะดึงความสนใจของลีลี่ เขาจึงพยายามแข่งขันกับ เสี่ยวหลาน (บารอน เฉิน) ซึ่งเป็นขวัญใจของลีลี่ ทำให้ทีมบาสเกตบอลต้องเผชิญกับบรรยากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ความขัดแย้งระหว่างสองหนุ่มคลี่คลายไปได้หลังจากได้คำปรึกษาจาก ติงเท ขณะเดียวกันเขาได้ช่วยซื่อเจี๋ยให้ผสมผสานรากฐานของวิชากังฟูใส่ลงไปในการเล่นบาสเกตบอล ทำให้ฝีมือในการเล่นของซื่อเจี๋ยพัฒนาไปจนถึงขีดสุดยอด ช่วยให้ทีมสามารถผ่านเข้าสู่การแข่งขันนัดสำคัญได้ คู่แข่งคนสำคัญของซื่อเจี๋ยและเพื่อนร่วมทีมก็คือทีมบาสเกตบอลที่มีผู้นำอย่าง ลีเทียน พี่ชายของติงเท สมาชิกในทีมบาสเกตบอลของลีเทียนแต่ละคนล้วนแต่เป็นนักกีฬาอันธพาลที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันบาสเกตบอลในสหรัฐอเมริกา พวกเขาถึงขนาดติดสินบนกรรมการ ซึ่งทำให้ทีมบาสเกตบอลของซื่อเจี๋ยกลายเป็นเป้าเคลื่อนที่และต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่มีแต่แพ้กับแพ้ เมื่อสถานการณ์มีอันตรายมากขึ้นเฉินหลี่พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกล่อมให้ปรมาจารย์ด้านวิชากังฟูทั้งสี่ตอบรับความท้าทายในวินาทีสุดท้าย ว่าแต่ซื่อเจี๋ยจะรับมือกับสถานการณ์นี้และเป็นผู้นำทีมสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เขาจะตามหาครอบครัวพบไหม และสุดท้ายใครคือคนรักของเขา ติดตามชมได้ใน ภาพยนตร์ Kung Fu Dunk กังฟูดังค์ ศึกบาสทะยานฟ้า
:+:+:+: ข้อมูลภาพยนตร์ Kung Fu Dunk กังฟูดังค์ ศึกบาสทะยานฟ้า :+:+:+:
ถือเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของไต้หวัน ต้นทุนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้สูงถึง 10,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ทีมงานหลังกล้องมาจากทั้งไต้หวัน, ฮ่องกง และสาธารณรัฐประชาชนจีน นักแสดงชายและหญิงหลายคนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้เข้ามามีส่วนร่วมในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ เควิน ชู หรือ จู้อินผิง คือผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เขาเคยกำกับภาพยนตร์มามากกว่า 100 เรื่อง นับแต่เรื่อง Kung Fu Kids ภาพยนตร์ทุกเรื่องของเขาได้รับความนิยมอย่างสูง โทนี่ ชิง คือผู้ออกแบบคิวบู๊ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี เขาเคยสร้างภาพยนตร์คลาสสิกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมาแล้วมากมายหลายเรื่อง จ้าวเสี่ยวติง คือผู้กำกับภาพที่เคยฝากผลงานถ่ายภาพเอาไว้กับภาพยนตร์เรื่อง Curses Of The GoldenFlower อี้ชุงม่าน คือผู้ทำหน้าที่โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ให้กับภาพยนตร์เรื่อง Perhaps Love เชอร์ลี่ย์ ชาน ก็คือผู้ออกแบบเสื้อผ้าและการแต่งหน้าให้กับภาพยนตร์เรื่อง Kung Fu Hustle เรายังได้เชิญบริษัทเทคนิคคัลเลอร์ (ปักกิ่ง) วิชวล เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทผลิตงานแอนนิเมชั่นชั้นแนวหน้า ให้เข้ามาสร้างสเปเชียลเอฟเฟ็กต์แบบสามมิติอันน่าตื่นตา เจย์ โชว คือนักร้องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในแวดวงชาวจีน เมื่อความสามารถในการแสดงของเขาเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนดูหลังจากเขาแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Initial D และ Curses Of The Golden Flower ความนิยมของประชาชนต่อภาพยนตร์ที่มีเจย์ โชว์แสดงอยู่นั้นช่วยการันตีความสำเร็จทางด้านรายได้ การมีเจย์ โชว์รับบทนำอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Kung Fu Dunk ภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องกลายเป็นภาพยนตร์ฮิตในประเทศที่มีชาวจีนอยู่อาศัย และนำเขาไปสู่ยุคใหม่ในอาชีพนักแสดง การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนกรกฎาคม ปี 2007 และงานโพสต์โปรดักชั่นมีขึ้นและเสร็จสิ้นในช่วงปลายปี 2007 ทีมผู้สร้างตัดสินใจที่จะเปิดตัวฉายภาพยนตร์เรื่องนี้กันในช่วงต้นปี 2008 ตามกระแสของกีฬาโอลิมปิคที่จะมีขึ้นในสาธารณรัฐประชาชนจีน และนี่ก็คือภาพยนตร์ตลกเพียงเรื่องเดียวในย่านเอเชียที่นำเสนอเรื่องราวของการผสมผสานระหว่างกังฟูและบาสเกตบอล คนดูกลุ่มเป้าหมายของภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แน่นอนว่านี่คือภาพยนตร์สำหรับคนทั่วโลกที่คุ้มค่าแก่การชมเพื่อความบันเทิง
งานออกแบบ
สำนักกังฟู ในเรื่องนี้ อาจารย์สอนวิชากังฟูผู้หนึ่งได้รับอุปการะเลี้ยงดูตัวละครหลัก ซึ่งรับบทแสดงโดยเจย์ โชว ทีมโปรดักชั่นได้ดั้นด้นค้นหาไปตามวัดวาอารามจีนมากมายหลายแห่ง ก่อนพวกเขาจะตัดสินใจเลือกโลเกชั่นแห่งหนึ่งบนถนนที่วุ่นวายของย่านดาวน์ทาวน์ เพื่อสร้างฉากสำนักกังฟูที่แสนต่ำต้อยที่ต่างจากรูปแบบวิถีชีวิตแบบผู้ทรงศีลในเส้าหลินและบู๊ตึ้ง พวกเขาปรับวิชากังฟูให้เข้ากับชีวิตจริง ทำให้วิชากังฟูประสานกับไปกับความร่มเย็นและคนสามัญชน แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีปรมาจารย์สุดยอดฝืมือถึง 4 คนแอบซ่อนตัวอยู่ในสำนักกังฟูธรรมดาๆ แห่งนี้
บาร์และร้านอาหารสไตล์จีน งานออกแบบชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คืองานออกแบบบาร์และร้านอาหารจีน เมื่อผู้กำกับศิลป์ อี้ชุงม่านเลือกใช้สีสันอันเจิดจ้า อาทิเช่น ใช้สีแดงสดเป็นโทนสีหลักในร้านอาหาร ซึ่งดูตัดกับมังกรทองตัวโต สะพานและสายน้ำ เพื่อสร้างสีสันสไตล์จีนให้กับบาร์ภายในร้านอาหาร
สนามบาสเกตบอล ทีมงานใช้เวลาตลอดทั้งคืนกับการสร้างสนามบาสเกตบอลที่ได้รับการออกแบบเอาไว้ ประการแรกพวกเขาทำการเทพื้นหลัก ก่อนจะปูทับด้วยพื้นไม้ที่ผ่านการกดอัดอย่างแน่นหนา ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากน้ำหนักของกล้องและอุปกรณ์
วิชากังฟูเยี่ยมยุทธ์ของเหล่าปรมาจารย์ ท่านผู้เฒ่า ซึ่งรับบทแสดงโดย แจ็คกี้ วู เชี่ยวชาญวิชาตัวเบาเดินบนผิวน้ำ ท่านอาจารย์ รับบทแสดงโดย เซี่ยงเกา เชี่ยวชาญวิชาจี้จุด อาจารย์หนี่ รับบทแสดงโดย หยานหนี่ เชี่ยวชาญวิชาใช้เข็ม อาจารย์หวง รับบทแสดงโดย หวงโป เชี่ยวชาญวิชาตุ๊กแก อาจารย์วู รับบทแสดงโดย วูม่งต๊ะ เชี่ยวชาญวิชาไท้เก๊ก อาจารย์เฟย รับบทแสดงโดย เหลียงกาหยาง เชี่ยวชาญวิชาพลังคลื่น ในภาพยนตร์เรื่องนี้อาจารย์ทั้งสี่ได้ช่วยซื่อเจี๋ยเอาชนะอุปสรรคนานัปการ นอกเหนือจากความสามารถชู้ดลูกบาสจากกลางสนามแล้ว ซื่อเจี๋ยยังต้องเรียนรู้หลักวิชากังฟูจากอาจารย์ทุกคน และนำทักษะวิชาใหม่ ๆ เหล่านี้มาใช้กับการเล่นบาสเกตบอล ส่วนเรื่องที่ว่าซื่อเจี๋ยสแลมดั้งได้อย่างมหัศจรรย์แค่ไหนและจะสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันรอบสุดท้ายได้หรือไม่ คือสิ่งที่คนดูจะได้เห็นเมื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้
ฉากแอ็กชั่น ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผสมผสานวิชากังฟูสุดลึกล้ำของจีนเข้ากับกีฬาบาสเกตบอลยอดนิยมของชาติตะวันตก เจย์ โชว ทุ่มสุดกำลังให้กับการแสดงฉากแอ็กชั่นทุกฉาก ซึ่งต้องการการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและหนักแน่น แต่เขาเกรงว่าจะทำให้ทีมงานได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ดีเจย์ โชว แก้ปัญหานี้ด้วยการให้รูปถ่ายพร้อมลายเซ็นชดเชยให้กับทุกคน การสร้างมิตรภาพที่ดีกับเพื่อนร่วมงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจย์ โชว
รักบริสุทธิ์ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ความรักแบบรักเขาข้างเดียวทั้ง 4 ครั้งของซื่อเจี๋ยกลายเป็นที่มาของเสียงหัวเราะ เพื่อนสาวคนแรกของเขาขู่จะฆ่าตัวตายเพื่อไล่เขาไปจากชีวิตของเธอ เพื่อนสาวคนที่ 2 บอกเขาอย่างเย้ยหยันว่าชาตินี้ไม่มีทางที่เธอจะเหลียวมองและคบเขาเป็นแฟน เพื่อนสาวคนที่ 3 แนะนำว่าเขากับเธอควรจะฆ่าตัวตายเพื่อจบปัญหาเรื่องการใช้หนี้ ซื่อเจี๋ยรู้สึกว่าเพื่อนสาวสามคนแรกของเขาดูดีสมบูรณ์แบบ แต่เขาแทบไม่รู้ตัวเลยว่าเขากลายเป็นคนโง่ที่หน้ามืดตามัวเพราะความรัก ลีลี่เพื่อนสาวคนที่ 4 ของเขา คือผู้ทำให้เกิดมุขตลกที่นำไปสู่ตอนจบที่คาดไม่ถึง
สเปเชียลเอฟเฟ็กต์จากคอมพิวเตอร์ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ช็อตภาพกว่า 400 ช็อตได้ถูกปรับแต่งให้ดูดีขึ้นด้วยสเปเชียลเอฟเฟ็กต์จากคอมพิวเตอร์ฉากสำคัญในตอนท้ายเรื่อง เมื่อก้อนเมฆลอยมาปกคลุมสนามบาสขณะที่เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าขึ้นบนท้องฟ้าคนดูจะถูกพาให้ก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาในอดีต
งานออกแบบเครื่องแต่งกาย ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ทีมงานได้ตัดเย็บและสรรหาเสื้อผ้าทั้งของตัวละครหลักและของตัวประกอบ เช่นเสื้อผ้าที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับตัวละครที่อยู่ในสำนักกังฟู นักกีฬบาสเกตบอล และเชียร์ลีดเดอร์ เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะต้องสะดุดตาคนดูเท่านั้น แต่จะต้องช่วยให้นักแสดงสามารถอินไปกับการแสดงบทบาทของพวกเขาได้ดีขึ้นอาทิเช่น ฟางซื่อเจี๋ยเกิดมาเป็นเด็กกำพร้า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูเรียบง่ายแต่เข้มแข็ง เสื้อผ้าของเขาได้รับการออกแบบโดยใช้สไตล์เสื้อผ้าแบบโรบินฮู้ด แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกลึกลับรอบๆ ตัวเขา ทำให้เขาแตกต่างไปจากคู่แข่งคนอื่น ๆ เพื่อรับบทเป็นติงเหว่ยที่เป็นคนเก็บความรู้สึกเฉินป๋อหลินมักจะพกขวดเหล้าติดตัวและปล่อยผมยาวให้ปิดบังใบหน้า เบื้องหลังท่าทางท้อแท้ของเขา ก็คืออดีตที่ถูกเก็บซ่อน ซึ่งสร้างบาดแผลลึกในใจให้กับเขา บทลีลี่แตกต่างไปจากบทเด็กสาวซุกซนและแสนฉลาดในแบบที่ชาร์ลีน ชอย เคยแสดงมาก่อนหน้านี้ เสื้อผ้าของเธอในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีลักษณะเหมือนทอมบอย ที่มาพร้อมผมทรงหางม้าสองข้าง ในภาพยนตร์เรื่องนี้ หลีลี่คุน รับบทเป็นไป่เทียนฮาว วายร้ายของเรื่องเสื้อผ้าของเขาดูเรียบง่ายทำให้เขาดูต่างไปจากมาเฟียทั่วไป แต่บุคลิกที่เป็นจอมอันธพาลของเขาทำให้ผู้คนหวาดกลัว จนอยากจะเดินหนีไปให้ห่างๆ จากเขา ชุดฟอร์มของทีมบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยเฟิร์สต์ดูโดดเด่นแต่ขณะเดียวกันก็ดูเรียบง่ายทั้งนี้เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ของเด็กวัยรุ่นและรูปแบบของชุดกีฬา โดยเน้นที่ลักษณะโครงสร้างกล้ามเนื้อของนักกีฬา ทำให้คนดูรู้สึกได้ถึงความอดทนและความงดงามเมื่อเสียงนกหวีดดังขึ้นและเกมส์บาสเกตบอลเริ่มต้นขึ้น
ชื่อภาพยนตร์ภาษาอังกฤษ | Kung Fu Dunk |
ชื่อภาพยนตร์ภาษาไทย | กังฟูดังค์ ศึกบาสทะยานฟ้า |
ประเทศ | ไต้หวัน |
ปีที่สร้าง | 2007 |
กำหนดฉาย | 21 กุมภาพันธ์ 2551 |
ประเภท | แอ๊กชั่น / สปอร์ท / คอมมิดี้ |
นักแสดงนำ | เจย์ โชว, ชาร์ลีน ชอย, อีริค ชาง, เฉินป๋อหลิน |
ผู้อำนวยการสร้างบริหาร | วูตัน, เรน จางหลัน, อัลเบิร์ต หยาง |
ผู้อำนวยการสร้าง | ซู เพนเกิล, ฟาร์โก้ ไป่, อัลเบิร์ต ลี |
กำกับโดย | เควิน ชู |
เขียนบทโดย | เควิน ชู, แลมชิวหวิง, แอนน์ หวัง |
ผู้กำกับคิวบู๊ | โทนี่ ชิงซิวตัง |
ผู้อำนวยการสร้างร่วม | หวังเทียนหยุน, เว็ด ซี เหยา, เจนนิเฟอร์ ชาง, แคเธอรีน ฟู |
ผู้กำกับภาพ | จ้าวเสี่ยวติง |
ลำดับภาพโดย | เฉินโปเวน |
สร้างสรรค์ดนตรีประกอบโดย | โค อิชิกาว่า (IDEA Inc.), หงจิงเหยา |
ต้นทุนสร้าง | 10,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ |
ผู้จัดจำหน่าย |
Rose Media |
:+:+:+: นักแสดงจากภาพยนตร์ Kung Fu Dunk กังฟูดังค์ ศึกบาสทะยานฟ้า :+:+:+:
:+:+:+: ทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ Kung Fu Dunk กังฟูดังค์ ศึกบาสทะยานฟ้า :+:+:+:
ดูหนังตัวอย่าง Kung Fu Dunk กังฟูดังค์ ศึกบาสทะยานฟ้า
รองเท้าผ้าใบแฟชั่น เรื่องควรรู้ ก่อนซื้อ!
รองเท้าผ้าใบแฟชั่น เรื่องควรรู้ ก่อนซื้อ! บุคลิกของหญิงสาว บอกได้จากรายละเอียดและความใส่ใจที่เธอเลือกสรร แอกเซสซอรี่ส์ให้เหมาะกับเสื้อผ้า และรองเท้าเป็นของสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
รีวิวหนัง : Get Smart พยัคฆ์ฉลาดเก๊กไม่เลิก
Get Smart พยัคฆ์ฉลาดเก๊กไม่เลิก วันที่เข้าฉาย : 19-06-2008