Home > รีวิวหนัง > ซีรี่ย์ พากษ์ไทย Step Up 2 : The Streets เสต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2

ซีรี่ย์ พากษ์ไทย Step Up 2 : The Streets เสต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2

โพสเมื่อ วันที่ 16 March 2016 | เปิดอ่าน 1,625 views | หมวดหมู่ : รีวิวหนัง

รีวิวหนัง : Step Up 2 : The Streets เสต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2

Step Up 2 : The Streets เสต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2

+:+:+:+ เรื่องย่อภาพยนตร์ Step Up 2 : The Streets เสต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2 +:+:+:+

ในชีวิตของสาวน้อยนักเต้น แอนดี้ เวสต์ (บริอาน่า เอวิแกน) ไม่เคยได้อะไรมาง่าย ๆ ไม่เคยเลยนอกจากการเต้น หลังจากที่แม่ของเธอเสียชีวิตแอนดี้ก็ไปอยู่กับ ซาร่า (ซอนย่า ซอห์น) เพื่อนรักของแม่ แต่บ้านของซาร่าก็เป็นอีกที่หนึ่งที่เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง สำหรับแอนดี้ครอบครัวที่แท้จริงของเธอคือกลุ่มนักเต้น 410 และ ไทเลอร์ เกจ (แชนนิ่ง เททั่ม) เพื่อนบ้านที่คอยดูแลและปกป้องเธอตลอดมา หลังจากโดดเรียนเป็นร้อยครั้งเพื่อไปซ้อมเต้นกับกลุ่ม 410 ซาร่าก็เหลืออดกับแอนดี้ และตั้งท่าจะส่งเธอไปอยู่กับป้าในเท็กซัส แต่โชคดีที่ไทเลอร์ยื่นมาเข้ามาช่วย โดยเกลี้ยกล่อมให้ซาร่าปล่อยให้แอนดี้อยู่ในบัลติมอร์ ถ้าแอนดี้ยอมเข้าเรียนในโรงเรียนสอนศิลปะแห่งแมรี่แลนด์ ซึ่งแอนดี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมเข้าไปเรียน เมื่อเข้าไปเรียนในโรงเรียนสอนศิลปะสุดไฮโซประจำรัฐ แอนดี้ก็ต้องดิ้นรนเพื่อปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ ขณะเดียวกันก็พยายามรักษาวิถีชีวิตเดิมไว้ แต่ไม่นานเธอก็วุ่นอยู่กับกิจกรรมของโรงเรียนใหม่ และพลาดนัดซ้อมกับ 410 หลายครั้ง จนถูกขับออกจากกลุ่ม แต่แอนดี้ไม่ยอมแพ้ เธอเข้าร่วมทีมเต้นของนักเต้นสุดฮอตประจำโรงเรียน เชส คอลลินส์ (โรเบิร์ท ฮอฟแมน) ที่ลงสมัครเข้าแข่งขันการเต้นใต้ดินของบัลติมอร์ที่เรียกว่า เดอะสตรีทส์ ความรู้สึกดี ๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างแอนดี้และเชส สุดท้ายแอนดี้ก็ค้นพบหนทางในการมีชีวิตอยู่กับฝันของตัวเองพร้อมๆ กับสร้างสะพานเชื่อมสู่สังคมใหม่ที่เธอรู้สึกแปลกแยกในตอนแรก เข้าฉายวันที่ 13 มีนาคม 2551

+:+:+:+ ภาพประกอบภาพยนตร์ Step Up 2 : The Streets เสต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2 +:+:+:+

      

      

      

      

      

      

      

+:+:+:+ เกี่ยวกับงานสร้างภาพยนตร์ Step Up 2 : The Streets เสต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2 +:+:+:+

ไม่สำคัญว่าคุณมาจากไหน สำคัญที่ตอนนี้คุณอยู่ทีไหนต่างหาก Step Up 2 : The Streets คือภาคต่อของภาพยนตร์สุดฮิตบนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศ Step Up กับความมันส์อีกระดับของสตรีทแดนซ์ และเรื่องราวจี๊ดใจใหม่ของความฝัน หัวใจ และร่างกาย แอนดี้คือเด็กนอกกรอบที่พยายามจะปรับตัวเข้ากับโรงเรียนสอนศิลปะแห่งรัฐแมรี่แลนด์สุดไฮโซ แต่ก็ยังคงเดินตามความฝันเดิม นั่นคือการเต้นกับทีมเต้นใต้ดินของบัลติมอร์ ส่วนเชส คือดาวเด่นของโรงเรียนที่พยายามสร้างสิ่งที่แตกต่างด้วยการรวบรวมสมาชิกเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเต้นสตรีทแดนซ์ที่ใหญ่ที่สุดและดิบที่สุดของบัลติมอร์ที่ชื่อว่า เดอะสตรีทส์ เมื่อแอนดี้เข้าร่วมทีมกับเชส ประกายความรักก็ปะทุขึ้นระหว่างทั้งคู่ ทำให้โลกสองโลกของแอนดี้ต้องมาปะทะกัน ขณะที่การเต้นทวีความร้อนแรงขึ้น ความกดดันในชีวิตของแอนดี้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน เธอต้องเรียนรู้ที่จะสร้างสะพานเชื่อมระหว่างความรักและความภักดี อิสระและโอกาส และระหว่างสิ่งที่เธอเป็นกับสิ่งที่เธอเชื่อว่าตัวเองเป็นได้ Step Up 2 : The Streets คือผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของผู้กำกับหน้าใหม่อนาคตไกล จอห์น ชู ที่ขับเคลื่อนด้วยการเต้น ดนตรี และการแสดงสะกดสายตาเช่นเดียวกับภาคแรก นำแสดงโดยทีมนักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่ที่มีพรสวรรค์ด้านการเต้นที่น่าทึ่งและต้องพิสูจน์ตัวเองยาวนานกว่าจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับตัวละคร นอกจากนี้ทีมงานเบื้องหลังยังมีหลายคนที่มาจาก Step Up ภาคแรก ไม่ว่าจะเป็น นักออกแบบท่าเต้นฮิปฮอปชื่อดัง จามอล ซิมส์ ที่คราวนี้เขาได้ร่วมงานกับ นาดีน “ไฮ แฮทรัฟฟิน” (เจ้าของฉายาราชินีฮิปฮอปแดนซ์) และ เดฟ สก๊อตต์ (Stomp the Yard) ผู้อำนวยการสร้างก็เป็นทีมเดิมเช่นกัน ได้แก่ แพทริค วอชเบอร์เกอร์ และ เอริค ฟีค จาก Summit Entertainment ร่วมด้วย อดัม แชงค์แมน และ เจนนิเฟอร์ กิ๊บก็อต จาก Offspring Entertainment อำนวยการสร้างบริหารโดย บ๊อบ เฮย์เวิร์ด, เดวิด นิกเซย์, แอนน์ เฟล็ทเชอร์ และ เมเรดิธ มิลตัน เขียนบทโดย โทนี่ แอนน์ จอห์นสัน และ คาร์เรน บาร์นา โดยอิงจากตัวละครที่สร้างสรรค์โดย ดวน แอดเลอร์ นักแสดงนำในเรื่องนี้เต้นเองทุกคนรวมถึง บริอาน่า เอวิแกน, โรเบิร์ท ฮอฟแมน (She’s the Man, You Got Served) และ วิล เคมพ์ (Van Helsing) ร่วมแสดงโดย ศิลปิน/นักแสดง/นางแบบ แคสซี่ เวนทูร่า, ซอนย่า ซอห์น, อดัม จี เซวานี่, เทลิช่า ชอว์, แดเนียล โปลันโก และแบล็ค โธมัส สมทบทีมนักแสดงด้วยทีมสตรีทแดนเซอร์มากพรสวรรค์ที่มาจากการออดิชั่น เพลงประกอบภาพยนตร์ของ Step Up 2 : The Streets ออกจำหน่ายภายใต้สังกัด Atlantic Records โดยเป็นผลงานฮิตของศิลปินแร็พ, ฮิปฮอป และอาร์แอนด์บี ชื่อดังมากมาย รวมถึงเพลง Low ของ Flo-Rida ที่ร่วมแจมโดย T – Pain พร้อมด้วยซิงเกิ้ลใหม่และมิวสิควิดีโอจาก T – pain, Missy Elliot, Enrique Iglesias, Trey Songz, Plies, Cassie, Cherish, Joc และอีกหลายเพลง

 

โรเบิร์ท ฮอฟแมน รับบท เชส : ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเชสทำไมคือดาวโรงเรียน เขาทั้งมีเสน่ห์ เท่ และมีทักษะการเต้นโดดเด่นแบบสามารถเป็นนักเต้นมืออาชีพได้สบาย ซึ่งเขารู้ตัวดี แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความกดดันหมดไป เพราะเขาไม่ได้ต้องการแค่เก่งเฉย ๆ แต่ต้องการแตกต่างและโดดเด่นด้วย เขาต้องการค้นหาความแข็งแกร่งเพื่อเป็นตัวของตัวเอง สุดท้ายเขาต้องยืดหยัดสู้กับเบลคพี่ชายที่เป็นครูสอนเต้นแนวคลาสสิคผู้เข้มงวด เพื่อเปลี่ยนแปลงและนำอิสระและความคิดสร้างสรรค์กลับสู่สถานที่ที่เขารัก ทีมสร้างรู้ดีว่าการเลือกนักแสดงมารับบท เชส คือกุญแจสู่นักแสดงคนอื่น ๆ และสำคัญกับการสร้างความรู้สึกดี ๆ ระหว่างแอนดี้กับเชสด้วย เพราะนั้นเชสคือตัวละครสำคัญอันดับหนึ่งตั้งแต่เริ่มสร้าง การค้นหาทำให้ทีมงานได้ค้นพบ โรเบิร์ท ฮอฟแมน ที่เริ่มเรียนเต้นตั้งแต่อนุบาลและเชี่ยวชาญการเต้น ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ แท็ป, บัลเล่ต์, แจซ และฮิปฮอป เช่นเดียวกับเชส โดยได้รับรางวัลการันตีความสามารถจากหลายเวที ฮอฟแมนแจ้งเกิดในซีรี่ย์ของ MTV เรื่อง Wild ‘N Out, แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ You’ve Got Served และได้รับบทเด่นใน She’s the Man ที่นำแสดงโดย อแมนด้า ไบนส์ และ แชนนิ่ง เททั่ม เห็นได้ชัดตั้งแต่เริ่มออดิชั่นแล้วว่าเขาเหมาะกับบทนี้ที่สุด “โรเบิร์ทเป็นธรรมชาติและดูสมจริงมาก” ผู้กำกับ จอน เอ็ม ชู กล่าว “เขามีเสน่ห์แบบเด็กมัธยมปลาย แต่ก็มีทักษะการเต้นที่น่าทึ่ง เรารู้เลยว่าเขาคือคนที่จะมารับบทนี้” ฮอฟแมนถ่ายทอดความเป็นเชสออกมาได้ดีมากเพราะเขาเข้าใจตัวละครตัวตั้งแต่ต้น “เชสเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียนที่มีทุก อย่างพร้อม แต่อย่างเดียวที่เขาไม่มีคือคนที่คอยบอกให้เขาเชื่อมั่นในความคิดและการเต้นของตัวเอง คนที่คอยบอกให้เขาเต้นอย่างที่อยากเต้น เต้นออกมาจากภายใน ซึ่งคล้าย ๆ กับตัวผม” ฮอฟแมนกล่าว “พอแอนดี้เข้ามา เชสก็กะปรี้กะเปร่าขึ้นอีกครั้ง ความหลงใหลในการเต้นของเขากลับมา เธอแสดงให้เขาเห็นว่าการเต้นออกมาจากใจเป็นยังไง การเป็นตัวของตัวเองเป็นยังไง ซึ่งนั่นเปลี่ยนแปลงทุกอย่างสำหรับเขา” ในฐานะคนที่ฝึกเต้นตั้งแต่เด็ก และต้องการแค่เรียนรู้จากคนที่เป็นแรงบันดาลใจและจากนั้นก็เป็นแรงบันดาลใจให้คนอี่นๆต่อ ผมรู้สึกว่าการเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้คือฝันที่เป็นจริง สำหรับ จอน ชู เสน่ห์ของฮอฟแมนเปล่งประกายเมื่อเขาตัดสินใจแหกกฎและทำตามหัวใจตัวเอง “เมื่อคุณเห็นโรเบิร์ทกับเชสปลดปล่อยลีลาเต้นบนฟลอร์ คุณจะรู้เลยว่าฮิปฮอปคือศิลปะรูปแบบหนึ่ง และแม้แต่พี่ชายของเขาก็มองเห็น” ชูกล่าว “โรเบิร์ททำให้การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้น”
บริอาน่า เอวิแกน รับบท แอนดี้ : หัวใจของ Step Up 2 : The Streets คือ แอนดี้ สาวน้อยจากละแวกบ้านเดียวกับ ไทเลอร์ เกจ (แชนนิ่ง เททั่ม) ตัวละครหลักของภาคแรก ที่พยายามเอาชนะอดีตอันเจ็บปวดของตัวเองและปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ให้ได้ ขณะที่พยายามซื่อสัตย์กับปูมหลังบนถนนเมืองบัลติมอร์ของตัวเอง สำหรับตัวละครนี้ ทีมงานต้องการนักแสดงที่มีทั้งทักษะการเต้นและการแสดง เช่นเดียวกับตัวละครเชส ซึ่งพวกเขาได้ค้นพบนักแสดงหน้าใหม่ไฟแรง บริอาน่า เอวิแกน ที่เริ่มเรียนเต้นตั้งแต่ 7 ขวบ กับนักออกแบบท่าเต้นฮิปฮอปชื่อดัง เชน สปาร์ค (จากรายการ So You Think You Can Dance?) และปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องในมิวสิควิดีโอและภาพยนตร์อิสระหลายเรื่อง อุณภูมิในห้องร้อนขึ้นทันทีที่เอวิแกนอ่านบทกับโรเบิร์ท ฮอฟแมน ทีมงานรู้ทันทีว่าเธอคือแอนดี้ “ตอนที่เขาสองคนอ่านบทด้วยกันมันอัศจรรย์มาก” ผู้กำกับชูเล่า “แอนดี้มีชีวิตขึ้นมา เธอกับโรเบิร์ทมอบพลังให้กันและกันอย่างที่เราหวังไว้” เอวิแกนรู้สึกสนใจบทนี้ทันทีเพราะเธอเองก็ต้องดิ้นรนในการเป็นนักแสดงเช่นเดียวกับที่ตัวละครของเธอดิ้นรนเรื่องการเต้น “ตอนแรก แอนดี้อาจจะสูญเสียอะไรหลายอย่างในชีวิต แต่เธอมีเป้าหมาย มีความฝัน และไม่ยอมให้อะไรมาขวางทาง” เอวิแกนกล่าว “แม่ของแอนดี้เสีย พ่อก็ไม่มี และเธอไม่ค่อยไว้ใจพวกผู้ชาย แต่เธอค่อย ๆ เรียนรู้ว่าบางครั้งต้องทิ้งบางอย่างไว้เบื้องหลังเพื่อเปิดทางให้สิ่งที่ฝันกลายเป็นจริง สุดท้ายเธอก็ตกหลุมรักผู้ชายที่เธอปฏิเสธมาตลอด และได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของความเชื่อ และความนับถือ” ในด้านการเต้น เอวิแกนต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบจากที่คุ้นเคย โดยพยายามเลียนแบบการเต้นที่แข็งแรงและดุเดือดแบบสตรีท “ฉันต้องเพลา ๆ ท่าเซ็กซี่ที่เคยเต้นแล้วลองฝึกเต้นแบบแรง ๆ มันก็ท้าทายอยู่นะ แต่ฉันชอบและได้เรียนรู้อะไรเยอะเลย แล้วฉันก็ชอบบุคลิกที่โดดเด่นของสมาชิกทีมเต้นแต่ละคนด้วย ตัวนักเต้นและความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างพวกเขาเด่นกว่าในหนังเรื่องไหนที่ฉันเคยดูมา” ที่สำคัญ เอวิแกนได้แรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณของแอนดี้ที่เหมือนกับทำให้เธอได้เปิดทัศนคติใหม่ “เมื่อถึงเวลาแย่ ๆ ที่ทุกอย่างพังหมด และคุณรู้สึกไม่มีที่พึ่ง แอนดี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณต้องเข้มแข็งและก้าวต่อไป อย่ายอมให้ใครเข้ามาขวางทางสู่ความฝันคุณได้”
แคสซี่ เวนทูร่า รับบท โซฟี : เมื่อแอนดี้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนใหม่ เธอก็โดนเหม็นขี้หน้าจากดาวโรงเรียนสวยเก่งชื่อโซฟี ที่เป็นทั้งนักแสดง นักร้อง และนักเต้น ที่สำคัญเธอเป็นแฟนเก่าขี้อิจฉาของเชส สำหรับบทนี้ ทีมงานตัดสินใจเลือกหน้าใหม่อีกคนมาแสดง นั่นคือ แคสซี่ เวนทูร่า ศิลปินอาร์แอนด์บีวัยรุ่นชื่อดังที่มีผลงานการแสดงเรื่องแรกคือเรื่องนี้และมอบเพลงหนึ่งให้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย แม้แคสซี่จะเป็นนักร้องเช่นเดียวกับตัวละคร แต่ปรากฎว่าเธอเป็นนักแสดงคนเดียวในทีมที่ไม่มีประสบการณ์การเต้นมาก่อน แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคใหญ่สำหรับแคสซี่ เพราะเธอฝึกหนักมากเพื่อจะได้แสดงออกมาได้ดีที่สุด “ฉันว่าฉันเป็นคนเดียวในกองถ่ายที่ไม่เคยเรียนเต้น” เธอยอมรับ “แต่ฉันคิดว่าถ้าฉันทุ่มเทให้กับบท คนดูจะต้องรู้สึกได้ ฉันก็เลยลองดู” ผู้กำกับ จอน ชู ไม่ได้แค่ประทับใจในความกล้าหาญของแคสซี่ที่โดดมารับบทนี้เท่านั้น แต่ยังปลื้มมากที่เธอถ่ายทอดความเกรี้ยวกราดรุนแรงของโซฟีออกมาได้ดี” ทันทีที่โซฟีเดินเข้ามาในห้อง จะรู้สึกได้เลยว่าเธอครองพื้นที่ของตัวเอง ชูกล่าว และผมว่าแคสซี่สนุกกับการแสดงบทร้าย เพราะตัวจริงเธอน่ารักมาก เธอเข้าใจว่าโซฟีมีจุดเปลี่ยน โซฟีไม่ได้เป็นตัวร้ายเสียทีเดียว เพราะลึกๆแล้ว เธอก็หลงทางเหมือนกัน และสุดท้าย เธอก็ถูกผลักดันให้ทำสิ่งที่ดีงามเป็นรั้งแรกในชีวิต แคสซี่ชอบถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงภายในของโซฟี จากคนเห็นแก่ตัวไปเป็นคนที่มองโลกกว้างขึ้น ตอนแรก โซฟีเป็นคนที่มีเป้าหมายชัดเจนมาก เกือบจะเหมือนเครื่องจักร  แคสซี่ตั้งข้อสังเกต เธอปิดกั้นความรู้สึกของตัวเอง แต่เมื่อได้รู้จักกับแอนดี้ เธอก็เปิดใจให้ความรู้สึกตัวเองอีกครั้ง และมองเห็นความสำคัญของคนอื่น

 

 

ดูหนังตัวอย่าง Step Up 2 : The Streets เสต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ 2

  • ข่าวที่น่าสนใจ
  • ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • 10 หนังดี มีความลับ ที่ผู้กำกับไม่ได้บอก (แต่เราจะเฉลย!!)
    เมื่อความสนุกของผู้กำกับซ่อน 10 ฉากแห่งความลับเอาไว้ในหนังอย่างแนบเนียน เคยสังเกตกันบ้างไหมว่าฉากหนังแต่ละเรื่องนี้กำลังบอกอะไรเราอยู่ ความสนุกและน่าติดตามในหนังแต่ละเรื่องต่อไปนี้จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อคุณรู้ว่าในแต่ละฉากนั้นมีมากกว่าภาพที่เราเห็น และนี่คือตัวอย่าง 10