ในแวดวงคนอ่านหนังสือ ชื่อของ John Dies at the End หรือ นายจอห์นตายตอนจบ คงผ่านหูผ่านตาของนักอ่านกันมาบ้างในภาพจำของการเป็นหนังสือที่สุดแนว ที่สำนักพิมพ์ มาร์ส สเปซ นำมาเปิดตลาดในประเทศไทยให้คอหนังสือได้สัมผัสถึงรสชาติอันแปลกใหม่พิลึกพิลั่น จากปลายปากกาของ David Wong ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ (ฉบับภาษาไทยแปลโดย วีระวัฒน์ เตชะกิจจาทร) ซึ่งเดิมที John Dies at the End เป็นนิยายตอนสั้นตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ Cracked.com จนสุดท้าย David Wong ก็นำนิยายเรื่องสั้นหลายๆตอนนี้มารวมเล่มจนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนขึ้นชั้นเป็นหนังสือขายดี New York Times Bestseller 

John Dies at the End เป็นเรื่องราวสุดพิลึกของชายหนุ่ม 2 คน ได้ค้นพบสารบางอย่างแล้วฉีดเข้าร่างกายตัวเองจนทำให้พวกเขาเห็นสัตว์ประหลาด และภูติผีปีศาจสารพัดชนิด ทำให้พวกเขาได้รับรู้ถึงแผนการร้ายของเจ้าปีศาจจึงต้องรับบทเป็นพระเอกเพื่อกอบกู้โลกใบนี้เสียเอง

หนังสือ John Dies at the End ต้นฉบับ และฉบับแปลไทย

” สิ่งที่แปลกสำหรับนิยายเรื่องนี้ก็คือ ส่วนมากนิยายสยองขวัญมักมาพร้อมกับบรรยากาศที่เคร่งเครียดจริงจังเพื่อสร้างความน่าหวาดกลัว แต่ John Dies at the End กลับขัดขืนต่อขนบนั้นโดยจับเอาความฮาแตกเป็นที่ตั้ง (คงเห็นกันตั้งแต่การตั้งชื่อเรื่อง) แล้วจึงค่อยผสานความน่ากลัวเข้าไป ซึ่งก็น่ากลัวมากด้วยในบางช่วงบางตอน นอกจากความสยองขวัญปนฮาแล้ว นิยายเล่มนี้ยังพาเพื่อนแนวอื่นๆ ที่ว่ากันว่ากำลังฮิตมาจนเต็มศาลา ไม่ว่าจะเป็นสืบสวนสอบสวน, ผจญภัย, ไซ-ไฟ, ดราม่าหนักๆ, ตลอดไปถึงข้อถกเถียงทางอภิปรัชญาและควอนตัมฟิสิกส์โน่นเลย ด้วยความที่ตัวเรื่องหันไปทางแนวโน้นทีแนวนั้นที อีกทั้งยังเล่าเรื่องแบบย้อนไปข้างหลัง เลยไปข้างหน้า แล้ววกกลับมาตรงกลางจนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะตีลังกาไปมาห้าสิบแปดตลบ เหมือนเปิดหนัง Evil Dead, The Conjuring, Oldboy, Star Trek, Inception, The Hangover และ Harry Potter ดูไปพร้อมๆ กันจนเหมือนจะมั่ว แต่ไม่ ” วีระวัฒน์ เตชะกิจจาทร ผู้แปลหนังสือฉบับภาษาไทยได้บอกสรรพคุณหนังสือที่เขาได้แปลไว้

แล้วในที่สุด John Dies at the End ก็ได้มากลายเป็นภาพยนตร์สุดคัลท์ โดยผู้กำกับหนังสยองที่มีความคัลท์ไม่แพ้เรื่องราวในหนังสืออย่าง Don Coscarelli ผู้กำกับเจ้าของผลงานคัลท์สุดติ่งอันลือลั่นอย่าง Phantasm ทั้ง 4 ภาค และ Bubba Ho-Tep ที่นักดูหนังต่างยกให้เป็นหนังคัลท์ขึ้นหิ้งไปเป็นที่เรียบร้อย และการได้ผู้กำกับสุดคัลท์มากุมบังเหียนสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ รับรองว่าต้องเพี้ยนแบบสุดติ่งไม่แพ้ต้นฉบับหนังสืออย่างแน่นอน ใครที่รอชมหนังเรื่องนี้อยู่ มารับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ได้แล้ววันนี้ที่ www.doonung.com รับประกันความโหด มันส์ ฮา โดยคลิปเปิดเรื่องสั้นๆด้านล่างเลยครับ